Tencent Cloud จับมือ Bitkub ของไทย เสริมโครงสร้างพื้นฐานคริปโต
Tencent Cloud และ Bitkub Group ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม เพื่อนำเสนอแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สามารถปรับขนาดได้ให้กับตลาดซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุด

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
Tencent Cloud ได้เข้ามาเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ Bitkub ในประเทศไทยแล้ว
Bitkub จะย้ายระบบการแลกเปลี่ยนและการรับฝากสินทรัพย์ไปยังโครงสร้างพื้นฐานของ Tencent
ระบบนี้ประกอบด้วย Kubernetes (TKE) และการเขียนโค้ดโดยใช้ AI ผ่าน CodeBuddy
มุ่งเน้นที่ความเสถียรของระบบ 99.9% การจัดเก็บข้อมูลในประเทศ และความปลอดภัยของระบบ eKYC
Tencent Cloud ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Bitkub Group บริษัทจากประเทศไทย ดีลนี้นำหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ที่สุดของเอเชียเข้าสู่ศูนย์กลางตลาดคริปโตของไทยโดยตรง Bitkub ไม่ใช่ผู้เล่นรายเล็ก บริษัทเป็นผู้ดำเนินการแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และรองรับปริมาณการซื้อขายคริปโตส่วนใหญ่ของไทย ภายใต้ความร่วมมือนี้ Bitkub จะย้ายส่วนสำคัญของระบบซื้อขายและระบบรับฝากสินทรัพย์ไปอยู่บนโครงสร้างพื้นฐานของ Tencent Cloud เป้าหมายชัดเจน Bitkub ต้องการระบบที่เร็วขึ้น ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งขึ้น และความสามารถในการขยายตัวตามความต้องการของผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Tencent Cloud ต้องการแสดงให้เห็นว่าสามารถขับเคลื่อนธุรกิจคริปโตจริงได้ ไม่ใช่แค่พูดถึง Web3
Bitkub ได้อะไรจากดีลนี้
ตามข้อตกลง Bitkub จะนำโครงสร้างพื้นฐานหลักและเครื่องมือฐานข้อมูลของ Tencent Cloud มาใช้งาน เพื่อรองรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล การจัดเก็บข้อมูล และการทำงานฝั่งแบ็กเอนด์ ขั้นแรก Tencent Cloud จะให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายระดับโลก ช่วยให้ Bitkub มอบการเข้าถึงที่รวดเร็วและเสถียรมากขึ้นแก่ผู้ใช้ แม้ในช่วงที่มีทราฟฟิกพุ่งสูง ขั้นที่สอง Bitkub จะใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญและลดช่วงเวลาระบบหยุดทำงาน
Bitkub ยังจะนำเครื่องมือแบบ cloud-native อย่าง Tencent Kubernetes Engine มาใช้งาน ทำให้แพลตฟอร์มสามารถขยายระบบได้อย่างรวดเร็วในช่วงตลาดผันผวน กล่าวโดยสรุป เมื่อการซื้อขายร้อนแรง ระบบไม่ควรล่ม เรื่องต้นทุนก็มีความสำคัญ Bitkub เลือก Tencent Cloud ส่วนหนึ่งเพราะความคุ้มค่าและการสนับสนุนด้านเทคนิค การใช้ระบบประมวลผลที่อิง AMD และสถาปัตยกรรมแบบหลายโซนช่วยลดค่าใช้จ่าย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการกู้คืนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เป็นจุดเด่นที่มองข้ามได้ยาก
โฟกัสด้านความปลอดภัย ความเสี่ยง และการกำกับดูแล
ความปลอดภัยคือหัวใจของความร่วมมือนี้ แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตไม่อาจยอมให้เกิดความผิดพลาดได้ Bitkub วางแผนใช้ฐานข้อมูลประสิทธิภาพสูงของ Tencent Cloud เช่น TDSQL, Redis และ MongoDB เพื่อรองรับงานสำคัญระดับภารกิจ นอกเหนือจากโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งสองบริษัทยังจะร่วมกันพัฒนาเครื่องมือควบคุมความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ซึ่งรวมถึงระบบ eKYC และ Risk Control Engine ของ Tencent Cloud เป้าหมายคือปกป้องเงินของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น และตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัยได้ตั้งแต่เนิ่นๆ Tencent Cloud ยังจะสนับสนุนการพัฒนาภายในองค์กร เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะช่วยให้ทีมวิศวกรของ Bitkub เขียนโค้ดได้เร็วขึ้น และทดสอบแอปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนใช้เครื่องมือเสริมเสถียรภาพของแอปมือถือ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในตลาดที่มีนักลงทุนรายย่อยเป็นหลักอย่างประเทศไทย
สัญญาณที่ใหญ่ขึ้นต่อโครงสร้างพื้นฐาน Web3
ผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายมองดีลนี้เป็นความร่วมมือระยะยาว Tencent Cloud ระบุว่าต้องการสนับสนุนระบบนิเวศ Web3 ที่ใช้งานจริง ด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับองค์กร ขณะที่ผู้บริหาร Bitkub ระบุว่าความร่วมมือนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แพลตฟอร์ม และรองรับการขยายตัวในอนาคตนอกประเทศไทย การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังส่งสัญญาณที่กว้างขึ้น ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ไม่ได้ยืนดูคริปโตอยู่ข้างสนามอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นโครงสร้างหลักอย่างเงียบๆ
Tencent Cloud ยังเป็นผู้สนับสนุนงาน Bitkub Summit 2025 ที่กรุงเทพฯ ตอกย้ำความมุ่งมั่นต่อภูมิภาคนี้ ในความเป็นจริง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังกลายเป็นสมรภูมิสำคัญของสินทรัพย์ดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐานคือรางวัลตัวจริง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ดีลนี้อาจไม่หวือหวา ไม่มีโทเคนใหม่หรือกิจกรรมแจกของรางวัล แต่หากระบบยังคงเร็ว ปลอดภัย และเสถียรในช่วงที่ตลาดร้อนแรง ความร่วมมือนี้จะมีความหมายมากกว่าพาดหัวข่าวที่ขับเคลื่อนด้วยกระแสใดๆ
อ้างอิง
ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

Hyperliquid เผชิญช่วงเวลาชี้ชะตา หลังการโหวตธรรมาภิบาลเล็งเผาโทเคน HYPE ครั้งใหญ่
Triparna Baishnab
Author

การยอมจำนนของวาฬกดดัน ASTER หลังผู้ถือรายใหญ่รับรู้ขาดทุน 667,000 ดอลลาร์
Triparna Baishnab
Author

Ray Dalio หนุน Bitcoin เป็นเครื่องมือป้องกันพอร์ตจากการด้อยค่าของเงินเฟียต
Triparna Baishnab
Author