ข่าว

Strategy ส่งสัญญาณเตรียมซื้อ BTC เพิ่ม หลังราคาหลุดระดับ 90,000 ดอลลาร์

โดย

Shweta Chakrawarty

Shweta Chakrawarty

Strategy ซึ่งเดิมชื่อว่า MicroStrategy ส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะเพิ่มการถือครอง Bitcoin เนื่องจาก BTC ลดลงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์

Strategy ส่งสัญญาณเตรียมซื้อ BTC เพิ่ม หลังราคาหลุดระดับ 90,000 ดอลลาร์

สรุปด่วน

สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว

  • กลยุทธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการสะสม Bitcoin เพิ่มเติม เนื่องจากราคาตกลงมาต่ำกว่าระดับ 90,000 ดอลลาร์ โดยอ้างอิงจากแผนการซื้อเมื่อราคาลดลงในปี 2022

  • Michael Saylor ซีอีโอ ยืนยันพันธกิจระยะยาวของบริษัทในฐานะสถาบันการเงินดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย Bitcoin

  • กลยุทธ์นี้เน้นย้ำถึงเสถียรภาพทางการเงิน โดยอ้างสิทธิ์การจ่ายเงินปันผล 71 ปีในราคา Bitcoin ในปัจจุบัน

การอ่อนตัวรอบล่าสุดของบิตคอยน์กำลังดึงดูดความสนใจจากหนึ่งในผู้สนับสนุนรายใหญ่ของฝั่งองค์กรอีกครั้ง นั่นคือ Strategy บริษัทบริหารสินทรัพย์บิตคอยน์รายใหญ่ซึ่งเดิมใช้ชื่อว่า MicroStrategy โดยบริษัทส่งสัญญาณว่ามีโอกาสจะเพิ่มการถือครองอีกครั้ง ขณะที่ BTC เคลื่อนไหวต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ ข้อความดังกล่าวมาจากชุดโพสต์ที่สะท้อนแนวทางที่บริษัทใช้มายาวนาน: ซื้อเมื่อราคาย่อตัว ไม่สนเสียงรบกวน และถือด้วยความเชื่อมั่น

Strategy ย้อนทบทวนกลยุทธ์ปี 2022

ในโพสต์ใหม่ บริษัทได้ย้ำถึงวิธีที่ตนรับมือกับตลาดหมีสุดโหดในปี 2022 ขณะนั้นต้นทุนเฉลี่ยของ Strategy อยู่ราว 30,000 ดอลลาร์ แต่ราคาบิตคอยน์ร่วงลงใกล้ 16,000 ดอลลาร์ ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยแทบถูกหั่นครึ่ง แม้อยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น บริษัทก็ไม่ได้ลดความเสี่ยง กลับเพิ่มการถือครอง BTC เพิ่มเติม

ข้อความล่าสุดมีความชัดเจนแม้ไม่ได้พูดตรง ๆ ว่า บริษัทอาจเดินเกมแบบเดียวกันอีกครั้งเมื่อบิตคอยน์ปรับฐานลง Strategy วางกรอบโพสต์นี้ให้เป็น “สัญญาณเงียบ” ต่อผู้เล่นในตลาด ชี้ว่าแม้การปรับตัวลงจะลึกเพียงใด ก็ไม่ใช่เหตุผลให้ถอย แต่เป็นช่วงเวลาที่ควรเข้าซื้อ

Saylor ตอกย้ำพันธกิจระยะยาวของบริษัท

Michael Saylor ซีอีโอของบริษัท ได้โพสต์ข้อความระบุเหตุผลว่าทำไมความผันผวนระยะสั้นจึงไม่กระทบต่อกลยุทธ์ของบริษัท เขาย้ำว่า Strategy ไม่ใช่กองทุน ทรัสต์ หรือบริษัทที่ถือสินทรัพย์แบบเฉย ๆ แต่เป็นธุรกิจที่ดำเนินงานจริง สร้างรายได้ ออกผลิตภัณฑ์การเงิน และใช้บิตคอยน์เป็น “ทุนที่สร้างผลตอบแทนได้”

เขาเน้นถึงตราสารหนี้ดิจิทัลทั้ง 5 รายการของบริษัท ได้แก่ STRK, STRF, STRD, STRC และ STRE ซึ่งรวมกันมีมูลค่าตามสัญญาเกิน 7.7 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังชี้ถึง Stretch (STRC) ตราสารที่มี BTC หนุนหลัง ออกแบบมาเพื่อจ่ายผลตอบแทนสกุลเงินดอลลาร์รายเดือนแบบคาดการณ์ได้ Saylor ระบุว่าโครงสร้างของบริษัทเปิดโอกาสให้ทำสิ่งที่กองทุนทั่วไปทำไม่ได้ และย้ำว่าพันธกิจระยะยาวยังเป็นเช่นเดิม นั่นคือการสร้าง “สถาบันการเงินดิจิทัลแห่งแรกของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเงินที่มั่นคง”

การคุ้มครองเงินปันผลแข็งแรง เพิ่มความเชื่อมั่น

Strategy ยังตอบข้อกังวลเรื่องความยั่งยืนของธุรกิจ บริษัทเปิดเผยว่าที่ระดับราคาบิตคอยน์ปัจจุบัน บริษัทมีศักยภาพจ่ายเงินปันผลได้ยาวนาน 71 ปี แม้ราคา BTC จะไม่ปรับขึ้นจากจุดนี้ก็ตาม นอกจากนี้ หากราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละมากกว่า 1.41% ก็จะชดเชยภาระเงินปันผลประจำปีได้ทั้งหมด ตัวเลขนี้ถูกนำเสนอเพื่อแสดงให้เห็นว่าคลังสินทรัพย์ของบริษัทยังมั่นคงแม้ตลาดผันผวน และยังเป็นสัญญาณว่า Strategy มีความแข็งแรงทางการเงินพอจะสะสม BTC เพิ่มในช่วงตลาดอ่อนตัว โดยไม่กระทบต่อพันธสัญญากับผู้ถือหุ้น

การเข้าซื้อล่าสุดตอกย้ำการสะสมต่อเนื่อง

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Strategy เปิดเผยว่าได้ซื้อ BTC เพิ่มอีก 487 เหรียญ คิดเป็นมูล่าประมาณ 49.9 ล้านดอลลาร์ ที่ราคาเฉลี่ย 102,557 ดอลลาร์ ทำให้บริษัทถือครองบิตคอยน์รวม 641,692 BTC มูลค่ากว่า 47.5 พันล้านดอลลาร์ ณ เวลาที่ประกาศ เมื่อบิตคอยน์ร่วงลงจากระดับสูงสุดก่อนหน้า ตลาดจึงคาดว่า Strategy จะเดินหน้าซื้อสะสมต่อไป และจากน้ำเสียงในโพสต์ล่าสุด บริษัทก็ดูพร้อมที่จะเข้าซื้อในจังหวะย่อตัวอีกครั้ง


Google News Icon

ติดตามเราบน Google News

รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด

ติดตาม