SEI แซง BNB Chain ในการเติบโตของปริมาณสเตเบิลคอยน์ภายใน 24 ชั่วโมง

เกิดความเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดเมื่อ SEI แซงหน้า BNB Chain ในการเติบโตของกระแสเงินไหลเข้าของสเตเบิลคอยน์ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสำคัญสำหรับบล็อกเชนใหม่รายนี้
ข้อมูลจาก Artemis ระบุว่า SEI มียอดการไหลเข้าของสเตเบิลคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากกว่า BNB สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมด้านสภาพคล่องระหว่างระบบนิเวศ DeFi ชั้นนำ

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ ปริมาณสเตเบิลคอยน์บน SEI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากแรงหนุนของการยอมรับที่มากขึ้นของผู้ใช้งาน การเติบโตของกิจกรรม DeFi และความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับความสนใจจากชุมชนคริปโต เนื่องจาก SEI ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากบล็อกเชน Layer-1 สมรรถนะสูงไปสู่การเป็นผู้เล่นสำคัญด้านสภาพคล่องและการเติบโตของเครือข่าย

การพัฒนานี้ตอกย้ำว่า SEI กำลังเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็น ศูนย์กลางของการเงินบนบล็อกเชน (on-chain finance) อย่างรวดเร็ว นักลงทุนเริ่มมองเห็นว่าโครงสร้างที่ขยายตัวได้ดีและต้นทุนต่ำของ SEI ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับระบบนิเวศที่มีอยู่แล้ว เช่น BNB Chain ของ Binance

🚨 LATEST: $SEI flipped $BNB chain in 24 hour stablecoin supply changes.

Source: @artemis pic.twitter.com/eVLh3lQKa4

— Marc Shawn Brown (@MarcShawnBrown) November 12, 2025

สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ถึงการเติบโตของระบบนิเวศ SEI

การเพิ่มขึ้นของปริมาณสเตเบิลคอยน์บน SEI ไม่ได้เป็นเพียงการไหลเข้าของเงินระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง ความเชื่อมั่นของนักเทรดและสถาบัน ที่มองหาแพลตฟอร์มชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ
สถาปัตยกรรมของ SEI ซึ่งออกแบบมาเพื่อการประมวลผลความเร็วสูง ทำให้สามารถ สลับโทเคนได้เร็วขึ้นและมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในวงการ DeFi

ในทางตรงกันข้าม กิจกรรมบน BNB Chain ยังคงทรงตัว โดยการมีส่วนร่วมของผู้ใช้เริ่มเผชิญกับการแข่งขันจากเครือข่ายอื่นที่ให้การยืนยันธุรกรรมเร็วกว่าและมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า
การเปลี่ยนแปลงของสภาพคล่องระหว่าง SEI และ BNB Chain ล่าสุดนี้อาจเป็น สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงระยะยาว ในวิธีที่ผู้เข้าร่วม DeFi กระจายเงินทุนของตน

โปรเจกต์ DeFi หนุนการเติบโตของ SEI

อีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตในเครือข่าย SEI คือ จำนวนโปรเจกต์ด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ที่ย้ายหรือเปิดตัวใหม่บนบล็อกเชนนี้มากขึ้น
โปรโตคอลที่ให้บริการด้านการให้กู้ การเพิ่มผลตอบแทน และแพลตฟอร์มซื้อขายแบบกระจายศูนย์ เริ่มผสานการทำงานกับ SEI ด้วยเหตุผลด้าน ความหน่วงต่ำมากและระบบประมวลผลแบบขนาน (parallel execution)

แอปพลิเคชันเหล่านี้ช่วยสร้าง ปริมาณธุรกรรมบนบล็อกเชนที่ต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มขึ้นของปริมาณสเตเบิลคอยน์บน SEI เนื่องจากผู้ใช้งานมีการฝากและโอนเงินภายในระบบนิเวศ
เมื่อโปรเจกต์รายใหญ่ขยายมาสู่ SEI มากขึ้น เครือข่ายนี้ก็กำลังกลายเป็น ศูนย์กลางสภาพคล่องที่มีศักยภาพสูง ซึ่งสามารถแข่งขันกับ BNB Chain และบล็อกเชนรายใหญ่อื่น ๆ ได้

โดยรวมแล้ว การพัฒนานี้ชี้ชัดว่า SEI ไม่ใช่มือใหม่อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในระบบเศรษฐกิจแบบมัลติเชน

ความได้เปรียบเชิงแข่งขัน: ความเร็วและการขยายตัว

หนึ่งในจุดแข็งหลักของ SEI เมื่อเทียบกับ BNB Chain คือ โครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อการเทรดโดยเฉพาะ
ต่างจากบล็อกเชน Layer-1 ทั่วไป SEI ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงเทรดเดอร์จริง เน้น ความหน่วงต่ำและระยะเวลาบล็อกที่แน่นอน (deterministic block time)
สิ่งนี้ทำให้แอปพลิเคชัน DeFi และผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ในการยืนยันธุรกรรมที่ รวดเร็วเกือบจะทันที ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญของการเติบโตของเครือข่าย SEI

เมื่อสภาพคล่องบนเชนเติบโตขึ้น การออกแบบของ SEI ยังให้ ข้อได้เปรียบในการดึงดูดสถาบันการเงิน เข้ามามีส่วนร่วม เทรดเดอร์ที่มีความถี่สูงและแพลตฟอร์ม DeFi ต่างได้รับประโยชน์จากความเร็ว ส่งผลให้เกิด วงจรเร่งการเติบโตของสภาพคล่องและปริมาณสเตเบิลคอยน์ บน SEI

บทสรุป

แม้การเติบโตอย่างรวดเร็วของ SEI จะน่าประทับใจ แต่ ความยั่งยืนในระยะยาว จะขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของนักพัฒนา การขยายระบบนิเวศ และการรักษาสภาพคล่องในตลาด
เครือข่ายจะต้องดึงดูดโปรโตคอลใหม่ ๆ และรักษากระแสเงินไหลเข้าของสเตเบิลคอยน์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์

อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมของปริมาณสเตเบิลคอยน์บน SEI ยังไม่มีแนวโน้มชะลอตัว ด้วยความต้องการผลิตภัณฑ์ DeFi ที่เพิ่มขึ้น และผู้ใช้ที่แสวงหาทางเลือกที่เร็วกว่าและถูกกว่า SEI กำลังอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะ คงบทบาทสำคัญในภูมิทัศน์ของบล็อกเชนที่กำลังเปลี่ยนแปลง