ข่าว

Pi Network เร่งกระบวนการ KYC ด้วย AI ขณะที่ Bitget เปิดให้ใช้ PI เป็นคอลแลเทอรัล

Pi Network เร่งระบบ KYC ด้วยการผสานรวม AI การเปลี่ยนแปลงนี้ ควบคู่ไปกับ Bitget ช่วยให้สามารถเป็นหลักประกันที่มีอัตราส่วนมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (LTV) สูงถึง 90%

Pi Network เร่งกระบวนการ KYC ด้วย AI ขณะที่ Bitget เปิดให้ใช้ PI เป็นคอลแลเทอรัล

สรุปด่วน

สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว

  • Pi Network ได้บูรณาการ AI เข้ากับ KYC มาตรฐาน ทำให้ลดการค้างของผู้ตรวจสอบลง 50% และเร่งการโยกย้าย Mainnet ให้กับผู้บุกเบิกหลายล้านคน

  • ผู้บุกเบิกจำนวน 17.5 ล้านคนผ่านกระบวนการ KYC แล้ว และอีก 15.7 ล้านคนได้ย้ายไปยัง Enclosed Mainnet โดยมีเงิน 3 ล้านเหรียญอยู่ในสถานะ KYC เบื้องต้นที่ไม่สามารถบล็อกได้

  • Bitget เปิดใช้งาน PI เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันของสถาบันโดยมีอัตราส่วนเงินกู้ต่อมูลค่า (LTV) สูงถึง 90% ซึ่งบ่งบอกถึงความมั่นใจทางการเงินที่เพิ่มขึ้น

  • การอัปเดตแบบรวมกันจะช่วยเร่งความเร็วในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและนำเสนอยูทิลิตี้ทางการเงินที่แท้จริงผ่านสินเชื่อที่ได้รับการสนับสนุนโดย PI ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่ขั้นตอนต่อไป

Pi Network เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับระบบ Standard KYC ด้วยการผสานเครื่องมือ AI ใหม่เข้ากับกระบวนการตรวจสอบตัวตนโดยตรง อัปเดตนี้ใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่อยู่เบื้องหลัง Pi Fast Track KYC ส่งผลให้เครือข่ายลดจำนวนคำขอ KYC ที่รอผู้ตรวจสอบมนุษย์ลงได้ 50% การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยแก้หนึ่งในคอขวดสำคัญของ Pi Network เพราะในหลายพื้นที่ การขาดแคลนผู้ตรวจสอบทำให้การอนุมัติล่าช้าเป็นเดือน ๆ ขณะนี้ AI รับหน้าที่ตรวจสอบชั้นแรก และจะส่งเฉพาะกรณีที่ไม่ชัดเจนต่อให้มนุษย์ตรวจซ้ำ วิธีนี้ยังคงคุณภาพการตรวจสอบ พร้อมเร่งความเร็วให้มากขึ้น

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การอัปเกรดนี้ช่วยปลดล็อกการย้ายไป Mainnet ให้กับผู้ใช้จำนวนหลายล้านคน Standard KYC คือประตูด่านสุดท้ายก่อนที่ผู้ใช้จะสามารถย้ายยอดคงเหลือขึ้นบล็อกเชนได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อปริมาณงานคั่งค้างลดลงอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลารอคอยที่ยาวนานก็เริ่มคลี่คลาย Pi ยังยืนยันด้วยว่าระบบ AI ยังคงมีความระมัดระวัง ไม่อนุมัติแบบผิดพลาด และยังคงส่งกรณีที่อ่อนไหวให้มนุษย์ตรวจสอบ ขณะเดียวกัน ระบบแสดงข้อมูลส่วนบุคคลต่อผู้ตรวจสอบน้อยลง ซึ่งช่วยเสริมความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้

17.5 ล้าน Pioneers ผ่าน KYC แล้ว ขณะที่การย้าย Mainnet เร่งตัวขึ้น

นอกจากอัปเดตด้าน AI แล้ว Pi Network ยังเปิดเผยตัวเลข KYC และการย้าย Mainnet ล่าสุดของทั้งเครือข่าย โดยปัจจุบันมีข้อมูลดังนี้:

  • 17.5 ล้าน Pioneers ผ่าน KYC แล้ว
  • 15.7 ล้าน Pioneers ย้ายไป Mainnet เรียบร้อยแล้ว

ช่องว่างนี้สะท้อนว่ามีผู้ใช้หลายล้านคนยังคงอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบสุดท้าย Pi เรียกร้องให้ผู้ที่ผ่าน KYC แล้วเร่งดำเนินขั้นตอนให้ครบ เช่น ตั้งค่ากระเป๋าเงิน เปิดใช้ 2FA และยอมรับโทเคน เพื่อให้การย้ายเสร็จสมบูรณ์ ยังมีผู้ใช้อีกจำนวนมากที่ค้างอยู่ในขั้นตอน Tentative KYC ประมาณ 3 ล้านคนอยู่ในกลุ่มนี้ โดย Pi ระบุว่าหลายคนสามารถปลดล็อกด้วยตัวเองได้ เพียงทำการตรวจสอบ liveness ตามที่ระบบกำหนดภายในแอป เมื่อทำเสร็จ เคสของพวกเขาจะสามารถขยับไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติภายใต้ระบบ AI ใหม่

ในอีกด้านหนึ่ง Pi Network ยังอัปเดตความคืบหน้าการจ่ายรางวัลให้ผู้ตรวจสอบ โดยระบุว่าการจ่ายครั้งใหญ่ครั้งแรกยังอยู่ระหว่างพัฒนา และตั้งเป้าปล่อยภายในสิ้นไตรมาส 1 ปี 2026 ความล่าช้าส่วนหนึ่งมาจากปริมาณข้อมูลที่ต้องประมวลผลจำนวนมาก และความจำเป็นต้องรักษาความยุติธรรมและความปลอดภัยในระดับเครือข่าย

Bitget เพิ่ม PI เป็นคอลแลเทอรัลสำหรับสถาบัน ด้วยอัตรา LTV 90%

ในช่วงเวลาเดียวกัน Pi Network ยังได้รับแรงหนุนจากฝั่งแพลตฟอร์มซื้อขาย เมื่อ Bitget เปิดให้ใช้ PI เป็นสินทรัพย์คอลแลเทอรัลอย่างเป็นทางการสำหรับผลิตภัณฑ์เงินกู้ของลูกค้าสถาบัน มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม PI ได้รับอัตรา loan-to-value (LTV) ที่ 90% ซึ่งเทียบเท่ากับสเตเบิลคอยน์หลักและสินทรัพย์คุณภาพสูงหลายรายการ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้สถาบันสามารถกู้เงินโดยใช้ PI ค้ำประกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องขายโทเคน เปิดทางสภาพคล่องรูปแบบใหม่ให้ตลาด

นี่ยังสะท้อนถึงมุมมองใหม่ของแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ที่มีต่อสถานะของ Pi เพราะอัตรา LTV สูงมักมอบให้เฉพาะสินทรัพย์ที่มีความเชื่อมั่นสูงและความเสี่ยงต่ำ การอัปเดตนี้ทำให้ PI ถูกจัดอยู่ในกลุ่มคอลแลเทอรัลเดียวกับ PYUSD, DAI และโทเคนกระแสหลักอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญต่อการบริหารความเสี่ยงของเทรดเดอร์และกองทุนระดับมืออาชีพที่ถือครอง Pi

สิ่งที่ความเปลี่ยนแปลงนี้หมายถึงสำหรับเฟสถัดไปของ Pi

เมื่อรวมกันแล้ว อัปเดตทั้งสองชุดนี้สะท้อนการเปลี่ยนเกียร์สำคัญของ Pi Network ด้านหนึ่ง KYC ที่ใช้ AI สามารถปลดล็อกข้อจำกัดด้านการปฏิบัติงานของ Mainnet ได้ อีกด้านหนึ่ง การได้รับสถานะคอลแลเทอรัลจาก Bitget ช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยทางการเงินในระดับสถาบัน KYC ที่เร็วขึ้นหมายถึงการย้ายที่เร็วขึ้น การย้ายที่เร็วขึ้นหมายถึงกระเป๋าเงินจริงมากขึ้น และเมื่อมีจำนวนกระเป๋าเงินเพิ่มขึ้น กิจกรรมบนบล็อกเชนก็จะเติบโตตามเมื่อระบบนิเวศเปิดเต็มรูปแบบ ในเวลาเดียวกัน การกู้ยืมโดยใช้ PI ค้ำประกันยังเปิดประตูไปสู่กลยุทธ์ด้านเลเวอเรจ สภาพคล่อง และผลตอบแทน ที่ไม่เคยมีในระบบของ Pi มาก่อน

และทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ Pi Network กำลังเข้าใกล้การเปิดฟังก์ชัน Mainnet แบบสมบูรณ์ เครือข่ายกำลังทำให้การยืนยันตัวตนเข้มขึ้น ขณะที่แพลตฟอร์มซื้อขายกำลังเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบเงียบ ๆ ทุกอย่างกำลังเข้าที่ Pi ไม่ได้มุ่งขยายฐานผู้ใช้อย่างเดียวอีกต่อไป แต่กำลังเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐาน ความเร็วด้านคอมพลายแอนซ์ และประโยชน์ใช้สอยทางการเงินไปพร้อมกัน ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังเปลี่ยนเกมของเครือข่ายอย่างชัดเจน

เขียนโดย:
ตรวจสอบและตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย:
ผู้ร่วมงาน:
Pi Network,drealFx || π
Google News Icon

ติดตามเราบน Google News

รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด

ติดตาม