ข่าว

Pi Network เผยกรณีศึกษา Proof-of-Concept ร่วมกับ OpenMind AI

Pi Network ได้จัดแสดงกรณีศึกษาโดยละเอียดที่แสดงให้เห็นถึงการบูรณาการระบบนิเวศกับแพลตฟอร์ม OpenMind AI

Pi Network เผยกรณีศึกษา Proof-of-Concept ร่วมกับ OpenMind AI

สรุปด่วน

สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว

  • ผลการทดสอบ Proof-of-Concept ของ OpenMind แสดงให้เห็นว่า Pi Nodes ดำเนินการประมวลผล AI ได้อย่างประสบความสำเร็จด้วยประสิทธิภาพที่เสถียร

  • โครงการริเริ่มนี้วางตำแหน่ง Pi ให้เป็นเลเยอร์การคำนวณแบบกระจายอำนาจสำหรับ AI ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาผู้ให้บริการคลาวด์แบบรวมศูนย์

  • ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ Pi ใกล้จะเปิดตัว Open Mainnet ต่อเนื่องจากประสิทธิภาพอันแข็งแกร่งบน Testnet 1

  • การอัปเกรด เช่น Pi Desktop v0.5.4 ช่วยเสริมการทำงานของโหนดเพื่อรองรับสภาพแวดล้อม Mainnet และการรวม dApp ที่กำลังจะมีขึ้น

Pi Network กำลังเตรียมเปิดตัวกรณีศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการ Proof-of-Concept ร่วมกับ OpenMind ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการผสานปัญญาประดิษฐ์กับโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ กรณีศึกษานี้มีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่า Pi Nodes ซึ่งดำเนินงานโดยผู้ใช้นับล้านทั่วโลก สามารถรองรับการประมวลผล AI ในระบบที่ปลอดภัย กระจายศูนย์ และเป็นเจ้าของโดยชุมชนได้

AI แบบกระจายศูนย์ ขับเคลื่อนด้วย Pi Nodes

กรณีศึกษานี้เจาะลึกว่าเครือข่ายโหนดทั่วโลกของ Pi สามารถรองรับงานฝึกสอนและประมวลผล AI ผ่านการทดสอบจริงได้อย่างไร โครงการนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ที่กว้างขึ้นของ Pi ในการสร้างเลเยอร์การประมวลผลแบบกระจายศูนย์ ที่ผู้ใช้งานทั่วไป แทนที่จะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ตามรายงานเบื้องต้นจากชุมชน Pi Network DEX การทดลอง Proof-of-Concept แสดงให้เห็นว่า Pi Nodes สามารถทำงานประมวลผล AI ได้สำเร็จด้วยประสิทธิภาพเสถียรและข้อผิดพลาดต่ำ โมเดลแบบกระจายศูนย์นี้ หากมีการขยายตัว อาจเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐศาสตร์ของ AI โดยลดความพึ่งพาแพลตฟอร์มคลาวด์แบบรวมศูนย์ และแจกจ่ายรางวัลไปยังผู้ดำเนินโหนดรายบุคคล

การทดลองนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ Pi Network ทดสอบงาน AI ขนาดใหญ่บนโครงสร้างบล็อกเชนของตน นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นศักยภาพในการผสานกลไกฉันทามติของบล็อกเชนกับการประมวลผลแบบกระจาย ซึ่งอาจเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ในการทำให้ AI เข้าถึงผู้คนได้อย่างกว้างขวาง

ก้าวสู่การเปิดตัว Mainnet

การประกาศนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Pi Network ใกล้จะเปิดตัว Open Mainnet ที่ทุกคนรอคอย โดย Testnet 1 ทำผลงานได้ดี สามารถประมวลผลธุรกรรมปริมาณสูงด้วยอัตราความผิดพลาดใกล้ศูนย์ การอัปเกรดถัดไป Testnet 2 เวอร์ชัน v23 จะนำโครงการเข้าใกล้การเปิดใช้งาน mainnet มากขึ้น สมาชิกชุมชนเรียกขั้นตอนนี้ว่าเป็น “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” ของ Pi Network

การเปลี่ยนผ่านสู่ mainnet อย่างสำเร็จจะทำให้ระบบนิเวศของ Pi สามารถทำงานภายในเศรษฐกิจโลกจริงได้ ทำให้ผู้พัฒนาสามารถเปิดตัว dApps, ผสานเครื่องมือ DeFi และขยายประโยชน์ใช้สอยของเครือข่ายได้ การอัปเดต Node เวอร์ชัน 0.5.4 ของ Pi Network มีบทบาทสำคัญในขั้นตอนนี้ โดยเวอร์ชันใหม่ปรับปรุงการคำนวณโบนัส เสริมความปลอดภัย และเพิ่มฟีเจอร์ติดตามพอร์ตแบบเปิดเพื่อให้การแจกจ่ายรางวัลแก่ผู้ดำเนินโหนดโปร่งใสมากขึ้น

เสริมเครื่องมือผู้พัฒนาและระบบนิเวศ

เพื่อสนับสนุนความเคลื่อนไหวนี้ Pi App Studio ได้รับการอัปเกรดเพื่อให้ผู้พัฒนาสร้างแอปพลิเคชันเฉพาะได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เครื่องมือนี้สามารถผสานเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังพัฒนาของ Pi ได้อย่างราบรื่น และช่วยสนับสนุนการสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ที่สามารถทำงานบน mainnet ที่จะมาถึง นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ของ Pi (Pi DEX) ก็มีกำหนดเปิดใช้งานบน mainnet ในช่วงปลายปี 2025 เพื่อเชื่อมเศรษฐกิจบล็อกเชนของ Pi กับกิจกรรม DeFi จริง ซึ่งช่วยให้มูลค่าถูกสร้างบนบล็อกเชนและยึดโยงประโยชน์ใช้สอยของโทเคน Pi กับประสิทธิภาพของเครือข่ายจริง

เฟสใหม่ของชุมชน Pi

สำหรับชุมชน Pi กว่า 50 ล้านคนทั่วโลก ความก้าวหน้านี้ไม่ได้เป็นเพียงความสำเร็จทางเทคนิค แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความพยายามร่วมกันหลายปี กรณีศึกษา OpenMind ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่า Pi Network พร้อมสำหรับงานประมวลผลขนาดใหญ่ แต่ยังสะท้อนความทะเยอทะยานที่จะนิยามการแบ่งปันความเป็นเจ้าของเทคโนโลยีในยุค Web3 เมื่อ Pi ก้าวจากการทดลองสู่การดำเนินงาน เครือข่ายยังคงมุ่งมั่นชัดเจน: การมอบพลังให้ผู้คนผ่านการกระจายศูนย์ นวัตกรรม และประโยชน์ใช้สอยในโลกจริง

Google News Icon

ติดตามเราบน Google News

รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด

ติดตาม