Pi Network ปฏิเสธข่าวลือเปิดตัวเมนเน็ต และขยายระบบยืนยันตัวตน KYC

Pi Network ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ปฏิเสธข่าวลือล่าสุดที่อ้างว่าเมนเน็ตของโครงการได้เปิดใช้งานแล้ว โดยยืนยันว่าปัจจุบันระบบยังคงอยู่ในช่วง “เครือข่ายปิด” (enclosed network) และบล็อกเชนของโครงการยังคงทำงานบน Testnet เวอร์ชัน 19 ไม่ใช่เวอร์ชัน 23 ตามที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมกันนี้ ทีมงานยังประกาศความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตน (KYC: Know Your Customer) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้หลายล้านคนเข้าใกล้การมีส่วนร่วมเต็มรูปแบบมากขึ้น

ข่าวลือเรื่องเมนเน็ตถูกพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริง

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวลือเกี่ยวกับการเปิดตัวเมนเน็ตแบบเปิดของ Pi Network แพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาและผู้ติดตามระบบนิเวศของชุมชนหลายรายยืนยันว่าบล็อกเชนของโครงการยังคงทำงานบน Testnet เวอร์ชัน 19 ภาพหน้าจอจาก Pi Block Explorer ก็ไม่พบหลักฐานการอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 23 ซึ่งชี้ชัดว่าข่าวอ้างถึงการเปลี่ยนผ่านสู่เมนเน็ตจริงนั้นไม่เป็นความจริง

บัญชีผู้ใช้หลายรายที่เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับ Pi รวมถึง PiNetwork DEX และผู้ใช้รายอื่น ๆ ได้เตือนให้ชุมชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด โดยย้ำว่าขั้นตอน “เครือข่ายเปิด” (open network phase) ซึ่งจะอนุญาตให้เชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินและแพลตฟอร์มซื้อขายภายนอกได้อย่างเต็มรูปแบบ ยังไม่เริ่มต้นในขณะนี้ สมาชิกบางคนยังระบุเพิ่มเติมว่าบล็อกเชนของ Pi Network ยังไม่ได้เปิดซอร์สโค้ด ทีมงานยังคงเปิดใช้งานไฟร์วอลล์ และยังไม่ปลดล็อกระบบนิเวศให้เข้าถึงสาธารณะ ซึ่งหมายความว่าการเชื่อมต่อจากกระเป๋าเงินภายนอก เช่น OKX ยังไม่สามารถทำได้

ชุมชนถูกขอให้หลีกเลี่ยงข่าวปลอม

ผู้นำและผู้สนับสนุนของชุมชน Pi Network ได้ออกมาเรียกร้องให้ “Pioneers” หรือผู้ใช้ Pi ระมัดระวังต่อข่าวลือที่แพร่กระจายทางออนไลน์ โดยเตือนว่าข่าวปลอมอาจสร้างความตื่นเต้นในระยะสั้น แต่ก็มักนำไปสู่ความสับสนและความผิดหวังในภายหลัง สมาชิกบางรายเน้นย้ำว่า การเปิดเมนเน็ตอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทีม Pi Core Team ประกาศยกเลิกไฟร์วอลล์ของเครือข่ายปิดอย่างเป็นทางการเท่านั้น

การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวจะเปิดทางให้กระเป๋าเงินภายนอก นักพัฒนา และแพลตฟอร์มซื้อขาย สามารถเชื่อมต่อกับบล็อกเชนของ Pi ได้อย่างเสรี จนกว่าจะถึงเวลานั้น ทีมงานแนะนำให้ผู้ใช้ติดตามเฉพาะประกาศอย่างเป็นทางการจาก Pi Core Team เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ล่าสุดมีรายงานในสื่อต่างประเทศบางแห่งที่เชื่อมโยง Pi Network เข้ากับมาตรฐาน ISO 20022 แม้ว่ามาตรฐานดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับระบบการชำระเงินบนบล็อกเชน แต่ทีมพัฒนาและนักวิเคราะห์ในชุมชน Pi ได้ออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าในปัจจุบันยังไม่มีความเชื่อมโยงหรือการรับรองอย่างเป็นทางการใด ๆ

การขยายระบบ KYC จุดความหวังให้กับผู้ใช้

ในด้านที่เป็นข่าวดี Pi Network ได้ประกาศขยายระบบ KYC เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาของผู้ใช้หลายล้านคนที่ติดอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูล จากข้อมูลที่ PiNetwork DEX เผยแพร่ พบว่าผู้ใช้ราว 3 ล้านรายที่มีสถานะ “KYC ชั่วคราว” (Tentative KYC) สามารถดำเนินการต่อได้โดยทำการตรวจสอบการยืนยันตัวตนแบบสด (liveness check) เพิ่มเติมภายในแอป การอัปเดตครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ Pioneers เข้าใกล้การมีส่วนร่วมในเครือข่ายเต็มรูปแบบมากขึ้น

การยืนยันตัวตน KYC เป็นขั้นตอนสำคัญที่จำเป็นสำหรับการย้ายโทเคน Pi ที่ขุดไว้เข้าสู่เมนเน็ตเมื่อเปิดใช้งานจริง กระบวนการใหม่นี้มุ่งทำให้ระบบตรวจสอบมีความรวดเร็ว เป็นธรรม และครอบคลุมผู้ใช้มากขึ้น

มองไปข้างหน้า

แม้จะมีความล่าช้าและข่าวลือต่าง ๆ แต่ Pi Network ยังคงขยายฐานผู้ใช้และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ทีม Pi Core Team ย้ำว่า เป้าหมายหลักของโครงการคือการสร้างเสถียรภาพในระยะยาวและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ มากกว่าการเร่งเปิดตัวต่อสาธารณะ

ด้วยการออกมาชี้แจงข่าวลือและปรับปรุงระบบยืนยันตัวตน Pi Network แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในด้านความโปร่งใสและความพร้อม ดังนั้น ในช่วงที่โครงการกำลังเปลี่ยนผ่านจากการทดสอบแบบปิดไปสู่บล็อกเชนแบบเปิด “ความอดทน” และ “ข้อมูลที่ถูกต้อง” ยังคงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของ Pi Network สำหรับตอนนี้ ทีมงานแนะนำให้ Pioneers ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ดำเนินการ KYC ให้เสร็จสิ้น และรอประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปของเครือข่าย