Mastercard จับมือ Ripple และ Gemini ทดลองใช้สเตเบิลคอยน์บน XRPL สำหรับธุรกรรมบัตรเครดิต
Mastercard ร่วมมือกับ WebBank เพื่อนำร่องใช้ stablecoin RLUSD ที่ได้รับการควบคุมบน XRPL สำหรับการชำระเงินธุรกรรมบัตรเครดิตแบบดั้งเดิม

Mastercard ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่กับ Ripple และ Gemini เพื่อทดลองใช้ RLUSD stablecoin บน XRP Ledger (XRPL) สำหรับการชำระธุรกรรมบัตรเครดิตแบบดั้งเดิม ความร่วมมือนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในกรณีตัวอย่างแรก ๆ ของการที่ธนาคารสหรัฐฯ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ใช้สเตเบิลคอยน์ที่เป็นไปตามข้อกำหนดในการชำระธุรกรรมสกุลเงินดอลลาร์ผ่าน บล็อกเชนสาธารณะ โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงระหว่างระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมกับโลกการเงินบนบล็อกเชน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของ Mastercard ในโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัล
Mastercard เดินหน้าผสานเทคโนโลยีบล็อกเชน
ตามข้อมูลจากทั้งสามบริษัท ความร่วมมือนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผสานรวมระหว่างระบบการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลกับเทคโนโลยีบล็อกเชน เมื่อระบบถูกนำมาใช้งานจริง Mastercard จะสามารถเปิดให้ธนาคารทำการชำระเงินผ่านสเตเบิลคอยน์ที่ได้รับการอนุมัติทางกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้การทำธุรกรรมมีความรวดเร็วและโปร่งใสมากขึ้น
ในช่วงปีที่ผ่านมา Mastercard ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้จับมือกับ Chainlink เพื่อเปิดให้มีการแปลงสกุลเงินดั้งเดิมเป็นคริปโตบนเครือข่ายโดยตรง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อคริปโตได้ง่ายขึ้นผ่านเครือข่ายของ Mastercard ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้จึงเป็นการต่อยอดกลยุทธ์เดิม โดยเน้นการทดลองระบบการชำระเงินด้วย สเตเบิลคอยน์ ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการนำการชำระเงินด้วยบล็อกเชนเข้าสู่ระบบการเงินระดับโลก
Ripple และ Gemini รับบทนำ
Ripple บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง XRP Ledger มีบทบาทสำคัญในโครงการนี้ XRPL เป็นบล็อกเชนแบบโอเพนซอร์สที่ขึ้นชื่อเรื่องความรวดเร็วและต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำ ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการชำระเงินโดยเฉพาะ Ripple เป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ที่ผลักดันการใช้บล็อกเชนในภาคการเงินสถาบัน และความร่วมมือในครั้งนี้ช่วยขยายแนวคิดดังกล่าวให้ใกล้เคียงกับการใช้งานในวงกว้างมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน Gemini แพลตฟอร์มคริปโตที่ก่อตั้งโดย Cameron และ Tyler Winklevoss ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน แพลตฟอร์มนี้มีการออกบัตรเครดิตรุ่นพิเศษที่เชื่อมโยงกับ XRP ร่วมกับ WebBank ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับรางวัลเป็นโทเคน XRP ได้โดยตรง เดือนที่แล้ว Gemini ยังได้เปิดตัวบัตรเครดิตรุ่นใหม่ที่เชื่อมโยงกับ Solana มอบเงินคืนสูงสุด 4% ในรูปแบบโทเคน SOL สำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
“ผ่านบัตรเครดิต Gemini เรากำลังพัฒนาวิธีที่สินทรัพย์ดิจิทัลถูกนำมาใช้ในการใช้จ่ายประจำวัน” กล่าวโดย Dan Chen ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Gemini
ระบบการชำระเงิน RLUSD ร่วมกับ WebBank
WebBank ผู้ออกบัตรเครดิตให้กับ Gemini จะเข้าร่วมโครงการนำร่องระบบการชำระเงินด้วย RLUSD ด้วยเช่นกัน โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าสเตเบิลคอยน์อย่าง RLUSD สามารถช่วยให้การชำระบัญชีระหว่างธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินเป็นไปอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายได้อย่างไร นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของบริษัทคริปโตในการกระจายแหล่งรายได้ โดยเฉพาะการดึงดูดผู้ใช้รายใหม่ผ่านบัตรเดบิตและเครดิตที่เชื่อมโยงกับคริปโตสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ในเวลาเดียวกัน Mastercard ยังได้ประกาศความร่วมมือแยกต่างหากกับ Humanity Protocol ผู้ให้บริการระบบระบุตัวตนดิจิทัล เพื่อศึกษาวิธีการใช้เทคโนโลยี Open Finance ในการขยายโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อ เงินกู้ และบริการทางการเงินจริง โดยเน้นไปที่ระบบยืนยันตัวตนบนบล็อกเชน
กก้าวสู่ระบบธนาคารบนบล็อกเชน
ความร่วมมือครั้งใหม่นี้ทำให้ Mastercard ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการผสานบล็อกเชนเข้ากับระบบการชำระเงินระดับโลก โดยการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย XRPL ของ Ripple และความเชี่ยวชาญของ Gemini ในสินทรัพย์ดิจิทัล โครงการนี้อาจเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานสเตเบิลคอยน์ในระบบการเงินทั่วไป หากประสบความสำเร็จ อาจเปิดทางให้ธนาคารที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลสามารถใช้ บล็อกเชนสาธารณะ ในการชำระธุรกรรมได้ ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมระบบบัตรเครดิตและบัตรเดบิต และนำบล็อกเชนเข้ามาใกล้ชีวิตทางการเงินของผู้คนมากยิ่งขึ้น
ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด


