HashKey เปิดตัวในตลาด HKEX โดยมี UBS และ Fidelity เป็นผู้ลงทุนหลัก
HashKey Holdings (3887.HK) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ในวันนี้ กลายเป็นบริษัทคริปโตเคอร์เรนซีแห่งแรกของฮ่องกงที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากระดมทุน IPO ได้ 207 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
HashKey (3887.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
นี่คือบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของฮ่องกงที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
การเสนอขายหุ้น IPO มูลค่า 207 ล้านดอลลาร์ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนหลัก 9 ราย
UBS Asset Management และ Fidelity เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมรายใหญ่
HashKey Holdings เปิดตัวอย่างเป็นทางการในกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม การเข้าจดทะเบียนครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของเมืองฮ่องกง โดย HashKey กลายเป็นบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรกที่ทำ IPO สำเร็จในฮ่องกง หุ้นของบริษัทซื้อขายภายใต้รหัส 3887.HK
การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ ไม่ใช่แค่สำหรับ HashKey เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความทะเยอทะยานด้านคริปโตและการเงินดิจิทัลในวงกว้างของฮ่องกงด้วย การนำบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลเข้าสู่ตลาดทุนโดยตรง ทำให้บริษัทต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างใกล้ชิดและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ในพิธีเข้าจดทะเบียน ผู้บริหารบริษัทมองการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นพันธสัญญาระยะยาว มากกว่าจะเป็นเส้นชัย โดย HashKey ระบุว่า IPO คือจุดเริ่มต้นใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและโครงสร้างพื้นฐาน
UBS และ Fidelity นำทัพกลุ่มผู้ลงทุนหลักที่แข็งแกร่ง
HashKey เข้าสู่ตลาดทุนด้วยแรงสนับสนุนจากผู้เล่นรายใหญ่ บริษัทสามารถดึงผู้ลงทุนหลัก (cornerstone investors) ได้ถึง 9 ราย ก่อนการทำ IPO โดยในรายชื่อมี UBS Asset Management Singapore, Fidelity และ CDH Investments การรวมตัวของผู้ลงทุนกลุ่มนี้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า สถาบันการเงินระดับโลกพร้อมสนับสนุนบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อมีกรอบกำกับดูแล โครงสร้าง และธรรมาภิบาลที่ชัดเจน นักวิเคราะห์มองว่าการสนับสนุนจากผู้ลงทุนหลักเป็นการแสดงความเชื่อมั่นต่อโมเดลธุรกิจของ HashKey และทิศทางด้านกฎระเบียบของฮ่องกง
การมีชื่อของสถาบันการเงินดั้งเดิมยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมด้วย บริษัทโครงสร้างพื้นฐานด้านคริปโตไม่ได้ดำเนินธุรกิจอยู่ตามขอบตลาดอีกต่อไป แต่กำลังก้าวเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่มีการกำกับดูแลและเป็นมิตรกับนักลงทุนสถาบันมากขึ้น ส่งผลให้การเข้าจดทะเบียนของ HashKey ได้รับความสนใจอย่างมาก ทั้งจากนักลงทุนสายคริปโตและนักลงทุนดั้งเดิมที่จับตาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในเอเชียอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์ยึดการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบเป็นหลัก เข้าสู่ตลาดทุน
ดร. เซียว เฟิง ประธานและซีอีโอของ HashKey เน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบตลอดกระบวนการเข้าจดทะเบียน เขากล่าวว่าบริษัทยังคงยึดฮ่องกงเป็นฐานหลัก และมุ่งมั่นเติบโตภายใต้กรอบการกำกับดูแล ตามคำกล่าวของดร. เซียว HashKey วางแผนเสริมความแข็งแกร่งให้กับขีดความสามารถหลักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงความปลอดภัย บริการรับฝากทรัพย์สิน การดำเนินการบนบล็อกเชน และการปฏิบัติตามกฎบนบล็อกเชน เขาระบุว่าพื้นที่เหล่านี้มีความสำคัญต่อความน่าเชื่อถือและการขยายตัวในระยะยาว
นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2018 HashKey ดำเนินกลยุทธ์ที่ชัดเจนมาโดยตลอด การปฏิบัติตามกฎระเบียบมาก่อนเป็นอันดับแรก เทคโนโลยีเป็นตัวสนับสนุนทุกอย่าง แนวทางดังกล่าวช่วยให้บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล เพื่อให้บริการทั้งลูกค้ารายย่อยและสถาบัน ปัจจุบัน HashKey ดำเนินธุรกิจในสามแกนหลัก ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านธุรกรรม บริการ on-chain และการบริหารสินทรัพย์ ซึ่งรวมกันเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจร
IPO ของ HashKey หมายถึงอะไรต่อการขับเคลื่อนดิจิทัลของฮ่องกง
การเข้าจดทะเบียนของ HashKey เกิดขึ้นในช่วงที่ฮ่องกงเร่งเดินหน้าวาระด้านการเงินดิจิทัล หน่วยงานกำกับดูแลยังคงผลักดันการทำโทเคนไนซ์ โครงการสินทรัพย์ในโลกจริง และกรอบการซื้อขายคริปโตที่สอดคล้องกับกฎระเบียบ ภายใต้บริบทนี้ IPO ของ HashKey จึงมีความหมายเชิงสัญลักษณ์อย่างมาก มันแสดงให้เห็นว่าบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเติบโต ปฏิบัติตามกฎ และยังเข้าถึงตลาดทุนในเอเชียได้
บริษัทระบุว่ามีแผนสนับสนุนความตั้งใจของฮ่องกงในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก ซึ่งรวมถึงการช่วยเชื่อมโยงการเงินดั้งเดิมเข้ากับระบบที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน สำหรับตลาดแล้ว ข้อความนั้นชัดเจน คริปโตในฮ่องกงกำลังก้าวพ้นช่วงทดลองไปแล้ว และเมื่อ HashKey กลายเป็นบริษัทจดทะเบียน การพัฒนาในระยะถัดไปจะมีโครงสร้างที่ชัดเจน อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และจับต้องได้มากขึ้นอย่างแท้จริง
ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

Hyperliquid Whale ปิดสถานะ Long BTC และเปิด Short ETH ขนาดใหญ่
Triparna Baishnab
Author

Pi Network เห็นการเติบโตของโหนดเพิ่มขึ้น 10 เท่า หลังสัญญาอัจฉริยะเริ่มใช้งานจริง
Shweta Chakrawarty
Author

อัตราต่อรองบน Polymarket พุ่ง หลัง Kevin Hassett โผล่เป็นตัวเต็งประธานเฟด
Triparna Baishnab
Author