Gemini ขาดทุนไตรมาส 3 กว่า 159 ล้านดอลลาร์ เดินหน้าพัฒนา “ซูเปอร์แอป” พลิกฟื้นธุรกิจ
ผลประกอบการไตรมาส 3 ของ Gemini ขาดทุน 159 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นอยู่ที่ 15.80 ดอลลาร์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เลือกใช้กลยุทธ์ “ซูเปอร์แอป” เพื่อฟื้นตัวและดึงดูดผู้ใช้งานให้มากขึ้น

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
Gemini รายงานขาดทุนสุทธิ 159 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาส 3 ราคาหุ้นร่วงแตะ 15.80 เหรียญสหรัฐฯ
การสูญเสียที่เกิดจากตลาดคริปโตที่ชะลอตัวและต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
Exchange มีแผน "ซูเปอร์แอพ" ที่มาพร้อมกระเป๋าเงิน การชำระเงิน การออม และรางวัล
นักลงทุนจับตาดูอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่ากลยุทธ์ดังกล่าวสามารถรักษาเสถียรภาพทางธุรกิจได้หรือไม่
ราคาหุ้นของ Gemini ร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 15,80 ดอลลาร์ หลังแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายงานผลขาดทุนสุทธิ 159 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สาม ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า แม้แต่แพลตฟอร์มคริปโตชื่อดังก็ยังเผชิญแรงกดดันเมื่อภาวะตลาดชะลอตัว โดยตามรายงานของ Cointelegraph ผลประกอบการไตรมาส 3 ของ Gemini ยังสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนหลายราย เนื่องจากรายได้เติบโตไม่ทันต่อการเพิ่มขึ้นของต้นทุน
⚡️ LATEST: Gemini shares hit record low at $15.80 after Q3 results showed $159M net loss.
— Cointelegraph (@Cointelegraph) November 11, 2025
The exchange is betting big on becoming a "super app" to turn things around. Will it work? pic.twitter.com/4hwMHB06PE
ทำไม Gemini ถึงขาดทุน
ตลาดคริปโตเริ่มชะลอตัวลงหลังจากช่วงบูมก่อนหน้า การแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มซื้อขายยังคงรุนแรง และ Gemini ไม่ใช่รายเดียวที่เผชิญปัญหานี้ นักวิเคราะห์ชี้ว่า เมื่อกิจกรรมในตลาดลดลง รายได้จากค่าธรรมเนียมการเทรดก็ลดลงตาม แต่ต้นทุนการดำเนินงานกลับยังคงสูง ทำให้เกิดการขาดทุนอย่างหนักในไตรมาสนี้
แม้ Gemini จะเป็นชื่อที่มีน้ำหนักในวงการคริปโต แต่ผลประกอบการล่าสุดแสดงให้เห็นว่า แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากความผันผวนของตลาดได้ บริษัทจึงจำเป็นต้องหากลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาเสถียรภาพทางธุรกิจ
แผน “ซูเปอร์แอป” ของ Gemini
Gemini กำลังวางเดิมพันครั้งสำคัญด้วยการเปลี่ยนกลยุทธ์ มุ่งสู่การเป็น “ซูเปอร์แอป” ที่ให้บริการมากกว่าการซื้อขายคริปโต โดยบริษัทตั้งใจจะเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัล ระบบชำระเงิน บัญชีออมทรัพย์ โปรแกรมรางวัล และบริการอื่น ๆ
แนวคิดนี้คือการสร้างแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับผู้ใช้คริปโต ซึ่งอาจช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่และรักษาฐานผู้ใช้ให้อยู่ในระบบได้นานขึ้น อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวก็มาพร้อมความเสี่ยง เนื่องจากการพัฒนาบริการใหม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงและเวลานาน อีกทั้ง Gemini ยังต้องแข่งขันกับแอปฟินเทคทั่วไป ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มคริปโตเท่านั้น
ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักลงทุน
สำหรับนักลงทุน ผลขาดทุนครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าธุรกิจแพลตฟอร์มคริปโตยังเผชิญความท้าทายอย่างมาก ขณะเดียวกัน แผนซูเปอร์แอปก็สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ กำลังมองหาหนทางเติบโตใหม่ ๆ นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
ส่วนผู้ใช้อาจได้รับประโยชน์จากบริการที่สะดวกและครอบคลุมมากขึ้น แต่ก็มีคำถามเรื่องความเสถียรและความปลอดภัย เช่น ฟีเจอร์ใหม่จะทำงานได้ราบรื่นหรือไม่ และ Gemini จะสามารถปกป้องข้อมูลผู้ใช้ได้ดีเพียงใด
ก้าวต่อไปของ Gemini
ผลขาดทุนไตรมาส 3 และราคาหุ้นที่ร่วงลงสะท้อนถึงความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตในภาวะตลาดซบเซา แนวทางซูเปอร์แอปถือเป็นแผนที่ทะเยอทะยาน หากสำเร็จ Gemini อาจสร้างรูปแบบธุรกิจที่มั่นคงขึ้นและดึงดูดผู้ใช้รายใหม่ได้มากขึ้น แต่หากล้มเหลว บริษัทอาจต้องถอยกลับไปโฟกัสที่บริการซื้อขายหลักอีกครั้ง
ในตอนนี้ ทั้งนักลงทุนและผู้ใช้ต่างจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะก้าวต่อไปของ Gemini อาจไม่เพียงกำหนดอนาคตของบริษัทเท่านั้น แต่ยังสะท้อนแนวโน้มของธุรกิจคริปโตโดยรวมที่พยายามขยายขอบเขตเกินกว่าการเทรด.
ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

เครือข่าย Bitcoin ปิดปี 2025 ด้วยสัญญาณสำคัญจากภาคเหมืองขุด
Vandit Grover
Author

ตลาด IPO คริปโตมุ่งสู่ปี 2026 ที่คึกคักขึ้น หลังระดมทุน 3.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025
Shweta Chakrawarty
Author

Wallet ใหม่สะสม Bitcoin มูลค่า 143 ล้านดอลลาร์จาก Binance
Shweta Chakrawarty
Author