CNBC ชี้ Ripple เร่งผลักดันให้ XRP เป็นหัวใจของโลกการเงินยุค 2.0
Ripple กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่ทรงประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นแกนหลักของ "การเงิน 2.0" ผ่านการซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple ได้สรุปแผนที่จะเป็นผู้นำ "Finance 2.0" ในงาน Ripple Swell 2025
บริษัทได้ดำเนินการซื้อกิจการมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ รวมถึง Hidden Road (1.3 พันล้านดอลลาร์) และ GTreasury (1 พันล้านดอลลาร์)
Ripple เปิดตัว Ripple Prime ซึ่งเป็นนายหน้าสถาบันที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาสำหรับการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล OTC
กลยุทธ์ดังกล่าวคือการอนุญาตให้สถาบันต่างๆ ใช้ XRP Ledger (XRPL) เพื่อการชำระเงินทั่วโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าตามยูทิลิตี้ของ XRP
Ripple กำลังเดินหน้าผลักดันเป้าหมายในการปรับโครงสร้างระบบการเงินโลกครั้งใหญ่ โดยมี XRP เป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ ตามรายงานล่าสุดจาก CNBC บริษัทกำลังเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจที่เน้นคริปโต ไปสู่สถาบันการเงินเต็มรูปแบบที่ผสานนวัตกรรมบล็อกเชนเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของธนาคารดั้งเดิม
ในการประชุม Ripple Swell 2025 ที่นิวยอร์ก แบรด การ์ลิงเฮาส์ (Brad Garlinghouse) ซีอีโอของบริษัท ได้อธิบายวิสัยทัศน์ของ Ripple ในการเป็นผู้นำยุคใหม่ที่เขาเรียกว่า “Finance 2.0” — ระบบการเงินที่บล็อกเชนจะมีบทบาทสำคัญในการชำระธุรกรรมระหว่างประเทศ การจัดการสภาพคล่อง และบริการทางการเงินระดับสถาบัน
การขยายธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของ Ripple
CNBC เปิดเผยว่า Ripple ใช้งบประมาณเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อกิจการตลอดปีนี้ ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์การขยายตัวเชิงรุก บริษัทได้เข้าซื้อ Hidden Road บริษัทนายหน้าชั้นนำ มูลค่าราว 1,3 พันล้านดอลลาร์ และ GTreasury ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บริหารเงินสดชั้นนำ มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์
การเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัว Ripple Prime แพลตฟอร์มนายหน้าสำหรับนักลงทุนสถาบันในสหรัฐฯ ที่ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ OTC เช่น XRP นอกจากนี้ Ripple ยังระดมทุนเพิ่มเติมอีก 500 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่าบริษัทแตะ 40 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัท
การ์ลิงเฮาส์กล่าวกับ CNBC ว่า เป้าหมายของ Ripple คือ “เดินนำหน้าทิศทางของตลาด” โดยเฉพาะเมื่อโลกการเงินและเทคโนโลยีบล็อกเชนเริ่มเชื่อมโยงกันมากขึ้น เขาเน้นว่าการเข้าซื้อกิจการล่าสุดเป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้าง “สะพานเชื่อม” ระหว่างระบบการเงินแบบดั้งเดิมกับระบบใหม่ เพื่อปูทางสู่การบูรณาการระดับสถาบันที่ลึกขึ้น
XRP Ledger: กระดูกสันหลังของบล็อกเชนภาคสถาบัน
แผนระยะยาวของ Ripple มุ่งเน้นการให้สิทธิ์ใช้งาน XRP Ledger (XRPL) แก่สถาบันการเงินรายใหญ่ที่ต้องการใช้บล็อกเชนสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนและบริหารสภาพคล่อง Ripple ต้องการวางตำแหน่ง XRPL ให้เป็น “ชั้นหลักของระบบการเงิน” เพื่อขยายการใช้งาน XRP จากตลาดซื้อขายคริปโต ไปสู่การชำระเงิน การบริหารเงินสด และการชำระสินทรัพย์ที่ถูกโทเคไนซ์
แม้ราคา XRP จะตามหลัง Bitcoin และ Ethereum ในช่วงปี 2025 แต่ Ripple เชื่อว่าการใช้งานจริงจะเป็นแรงขับเคลื่อนมูลค่าในระยะยาว การ์ลิงเฮาส์กล่าวว่าบริษัทให้ความสำคัญกับ “การสร้างดีมานด์จากการใช้งานจริง ไม่ใช่จากการเก็งกำไร” โดยเชื่อว่าการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนที่เร็วขึ้นและต้นทุนต่ำลงจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการเติบโตของ XRP
กฎระเบียบ: ชิ้นส่วนสำคัญที่ยังขาดหาย
แม้ Ripple จะมีพัฒนาการที่ชัดเจน CNBC ระบุว่า อุปสรรคใหญ่ที่สุดยังคงเป็น “ความชัดเจนด้านกฎระเบียบ” ในสหรัฐฯ โดย Clarity Act ที่ถูกเลื่อนออกไปอย่างยาวนานยังคงหยุดชะงักจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในหมู่ธนาคารที่ต้องการทดลองนำบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้
การ์ลิงเฮาส์ยอมรับถึงความท้าทายนี้ โดยกล่าวว่า “มันจะเป็นเรื่องยากจนกว่าเราจะได้ความชัดเจนทางกฎหมาย”
อย่างไรก็ตาม เขายังคงมองโลกในแง่ดีว่า พื้นฐานที่ Ripple วางไว้จะช่วยให้บริษัทและ XRP สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้เมื่อผู้กำหนดนโยบายเริ่มเดินหน้า ในขณะที่ Ripple ขยายรอยเท้าทางการเงินอย่างต่อเนื่อง สารจากงาน Swell 2025 จึงชัดเจนว่า บริษัทไม่ได้สร้างเพียงผลิตภัณฑ์สำหรับนักเทรดคริปโตอีกต่อไป แต่กำลังวางรากฐาน “ยุคใหม่ของระบบการเงินโลก” โดยมี XRP อยู่ที่ใจกลางของทุกสิ่ง
ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด


