Cardano ผ่านการทดสอบการกระจายศูนย์ของ AWS — ผู้เชี่ยวชาญคาดราคา ADA เตรียมพุ่งแรง

Cardano (ADA) ผ่านการทดสอบการกระจายศูนย์ของ AWS ได้สำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในเครือข่ายบล็อกเชนที่ปลอดภัยและกระจายศูนย์มากที่สุดในโลก ตามรายงานของ Cardano Feed การทดสอบดังกล่าวยืนยันว่าโครงสร้างเครือข่ายของ Cardano สามารถผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านการกระจายศูนย์โดยใช้ระบบทดสอบคลาวด์ของ Amazon Web Services (AWS) ได้สำเร็จ ความสำเร็จนี้ตอกย้ำเป้าหมายของ Cardano ในการสร้าง “การกระจายศูนย์อย่างแท้จริง” ซึ่งเป็นคำมั่นที่อยู่ในแกนกลางของโครงการตั้งแต่เปิดตัว ยุค Shelley ในปี 2020

Cardano Price Breakout Conditions Names as ADA Passed AWS Decentralization Test pic.twitter.com/TDA237pcOU

— Cardano Feed ($ADA) (@CardanoFeed) November 1, 2025

การทดสอบการกระจายศูนย์ของ AWS คืออะไร

การทดสอบของ AWS จำลองการทำงานของโหนดอิสระหลายพันโหนด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีหน่วยงานใดมีอำนาจมากเกินไปในการกำหนดกลไกฉันทามติของเครือข่าย มูลนิธิ Cardano ร่วมกับพันธมิตรด้านพัฒนาอย่าง IOHK และ Emurgo ได้ทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและสุขภาพของเครือข่าย

ผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนมองว่าการรับรองจาก AWS เป็นอีกชั้นของ “ความเชื่อมั่น” โดยเฉพาะในช่วงที่ Cardano กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ DeFi, NFTs และแอปพลิเคชันสำหรับองค์กร

ราคา ADA มีแนวโน้ม “เบรกทะลุแนวต้าน”

โทเคนพื้นเมืองของ Cardano หรือ ADA กำลังเคลื่อนไหวสะสมตัวบริเวณ 0.64 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแนวรับแข็งแกร่งที่ 0.62 ดอลลาร์สหรัฐ นักวิเคราะห์ระบุว่า หาก ADA สามารถรักษาแรงขับเคลื่อนและทะลุแนวต้านในช่วง 0.95–1.28 ดอลลาร์สหรัฐ ได้สำเร็จ มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งแตะ 1.90 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2025

การประกาศความร่วมมือกับ AWS รวมถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักเทรดว่า ADA อาจกำลังเตรียมเข้าสู่การเคลื่อนไหวรอบใหม่

นักสังเกตการณ์ตลาดมองว่า การยืนยันความกระจายศูนย์ของ Cardano จะดึงดูดนักพัฒนาและนักลงทุนที่มองหาบล็อกเชนที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและมีความยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคริปโตกำลังขยายตัวตามราคาของ Bitcoin ที่พุ่งทะลุ 138,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ความสำคัญของความสำเร็จครั้งนี้ต่อ Cardano

การผ่านการทดสอบของ AWS ช่วยให้ Cardano แข่งขันได้สูสีกับเครือข่ายอื่นอย่าง Solana และ Ethereum โดยเฉพาะในแง่ของ “ความเป็นอิสระของเครือข่าย” และ “ประสิทธิภาพด้านพลังงาน” ปัจจุบัน Cardano มีการใช้พลังงานเพียง 6 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ต่อปี เทียบกับ 204 เทราวัตต์ชั่วโมง (TWh) ที่ Bitcoin ใช้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางความยั่งยืนระดับโลก

ขณะนี้แพลตฟอร์มอยู่ในช่วงของ ยุค Voltaire ซึ่งจะเพิ่มระบบการกำกับดูแลบนบล็อกเชน (on-chain governance) เพื่อเปิดให้ผู้ถือ ADA มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในทิศทางการพัฒนาเครือข่ายในอนาคต ซึ่งจะทำให้ Cardano กลายเป็นระบบที่พึ่งพาตนเองได้อย่างเต็มรูปแบบ

ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง การดึงดูดนักพัฒนาเพิ่มขึ้น และการรับรองจาก AWS — Cardano กำลังเดินหน้าเป็นหนึ่งในเครือข่ายบล็อกเชนที่ “กระจายศูนย์สูงสุด ยั่งยืน และพร้อมสำหรับอนาคต” ในโลกคริปโต.