Bitmine เริ่มทำ Staking ETH ด้วยเงินฝาก 219 ล้านดอลลาร์ในระบบ PoS

Bitmine เริ่มทำ staking Ethereum เป็นครั้งแรก นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางการบริหารคลังคริปโตขนาดใหญ่ของบริษัท เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ข้อมูล on-chain แสดงให้เห็นว่า Bitmine ฝาก 74,880 ETH คิดเป็นมูลค่าราว 219 ล้านดอลลาร์ เข้าสู่ระบบ proof-of-stake ของ Ethereum การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนการเปลี่ยนจากการถือครองแบบเฉย ๆ ไปสู่การสร้างผลตอบแทน ก่อนหน้านี้ Bitmine ยังไม่เคยใช้ staking แม้จะเป็นผู้ถือครอง Ethereum รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งที่เป็นที่รู้จัก

การทำ Staking ครั้งแรกสะท้อนการเปลี่ยนกลยุทธ์

ตามข้อมูลการติดตาม on-chain ที่แชร์โดย EmberCN เงินฝากดังกล่าวถือเป็นการมีส่วนร่วมกับการทำ staking บน Ethereum โดยตรงเป็นครั้งแรกของ Bitmine โดย ETH ถูกส่งไปยังสัญญาเงินฝากของ validator ที่เชื่อมโยงกับเครือข่าย Ethereum PoS

According to EmberCN, Bitmine—the largest Ethereum treasury company—has begun staking ETH for yield. This morning, it deposited 74,880 ETH (~$219M) into Ethereum PoS, marking its first staking move. Bitmine currently holds 4.066M ETH; at an estimated ~3.12% APY, fully staking…

— Wu Blockchain (@WuBlockchain) December 27, 2025

จากการประเมินในปัจจุบัน การทำ staking บน Ethereum ให้ผลตอบแทนรายปีประมาณ 3.1% แม้อัตราผลตอบแทนจะผันผวนตามสภาวะของเครือข่าย แต่การทำ staking ให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างมั่นคง เมื่อเทียบกับกลยุทธ์การเทรดหรือการปล่อยกู้ เงินฝากเริ่มต้นนี้ครอบคลุมเพียงสัดส่วนเล็กน้อยของการถือครองทั้งหมดของ Bitmine อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการวางรากฐานด้านการดำเนินงานสำหรับกลยุทธ์ staking ในวงกว้าง

คลังสินทรัพย์ถือครองมากกว่า 4 ล้าน ETH

ปัจจุบัน Bitmine ควบคุม ETH ราว 4.066 ล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 12.4 พันล้านดอลลาร์ตามราคาตลาดล่าสุด ข้อมูลจาก Arkham และ EmberCN ระบุว่า บริษัทเพิ่มการถือครองเกือบ 99,000 ETH ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียว ส่งผลให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แม้ราคา ETH จะยังต่ำกว่าจุดสูงสุดก่อนหน้า หาก Bitmine ทำ staking ETH ทั้งหมดที่ถืออยู่ในอัตราผลตอบแทนที่ประเมินในปัจจุบัน บริษัทอาจได้รับราว 126,800 ETH ต่อปี ที่ราคา ETH ปัจจุบันประมาณ 2,927 ดอลลาร์ จะเทียบเท่ากับผลตอบแทนจาก staking ราว 371 ล้านดอลลาร์ต่อปี อย่างไรก็ตาม การทำ staking ทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่รับประกันได้ ผู้ถือครองรายใหญ่มักทยอยฝากเพื่อบริหารสภาพคล่อง ความเสี่ยงของ validator และข้อจำกัดด้านการดำเนินงาน

การโอน on-chain สะท้อนการจัดพอร์ตเชิงรุก

ข้อมูลบนบล็อกเชนแสดงให้เห็นว่า การฝากเพื่อทำ staking เกิดขึ้นหลังจากมีการโอน ETH จำนวนมากจากแพลตฟอร์มซื้อขายและผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Bitmine รับ ETH จากแพลตฟอร์มอย่าง Kraken, FalconX และ BitGo สะท้อนการรวมศูนย์คลังสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการฝากแบบเป็นชุดหลายครั้งเข้าสู่สัญญา validator ของ Ethereum ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ รูปแบบดังกล่าวบ่งชี้ถึงการดำเนินการ staking ที่มีการประสานงาน ไม่ใช่ธุรกรรมแบบทำครั้งเดียว แม้จะถือครองสินทรัพย์ในปริมาณมาก แต่ Bitmine ยังคงขาดทุนที่ยังไม่รับรู้ผล ข้อมูลระบุว่าราคาเฉลี่ยในการเข้าซื้อของบริษัทอยู่ใกล้ระดับ 3,884 ดอลลาร์ต่อ ETH ซึ่งสูงกว่าระดับราคาตลาดในปัจจุบัน

เทรนด์กว้างในกลุ่มบริษัทคลังคริปโต

การเคลื่อนไหวของ Bitmine เกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทที่มีคลังคริปโตขนาดใหญ่กำลังมองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินทุน ขณะที่บริษัทที่เน้น Bitcoin มักพึ่งพาการปรับขึ้นของราคาเพียงอย่างเดียว ผู้ถือครอง Ethereum สามารถสร้างผลตอบแทนได้โดยตรงผ่านการทำ staking ความแตกต่างนี้ทำให้คลัง ETH มีโครงสร้างที่แตกต่างออกไป การทำ staking สามารถช่วยชดเชยความผันผวนของราคา และสร้างรายได้ในช่วงที่ตลาดทรงตัวหรือปรับตัวลง

อย่างไรก็ตาม การทำ staking ในขนาดใหญ่ยังมีความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาที่ validator หยุดทำงาน บทลงโทษจากการ slashing และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐศาสตร์ของโปรโตคอล ด้วยเหตุนี้ หลายสถาบันจึงเลือกใช้แนวทางแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะนี้ Bitmine ยังไม่เปิดเผยว่าจะเพิ่มการทำ staking ETH ในระยะใกล้หรือไม่ แต่เงินฝากก้อนแรกมูลค่า 219 ล้านดอลลาร์ บ่งชี้ว่าการสร้างผลตอบแทนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์คลังสินทรัพย์ระยะยาวแล้ว เมื่อระบบนิเวศ PoS ของ Ethereum พัฒนาเต็มที่ การเคลื่อนไหวลักษณะนี้อาจกลายเป็นมาตรฐานสำหรับผู้เล่นรายใหญ่