เมตาแพลนเน็ตเผยผลประกอบการไตรมาส 3 แข็งแกร่ง – ชี้แจงข้อกล่าวหาเรื่องธรรมาภิบาลองค์กร

บริษัทเมตาแพลนเน็ต อิงค์ (Metaplanet Inc.) บริษัทบริหารทุนสำรองบิตคอยน์จากญี่ปุ่น เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2025 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยรายงานแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการถือครองบิตคอยน์และความก้าวหน้าของการดำเนินงานอย่างแข็งแกร่ง
พร้อมกันนี้ ซีอีโอของบริษัท นายไซมอน เกอร์โรวิช (Simon Gerovich) ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้รายงานของสื่อบางแห่งที่ตั้งข้อสงสัยเรื่องธรรมาภิบาลองค์กรในบริษัทที่ปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเกอร์โรวิชย้ำว่า เมตาแพลนเน็ตได้ดำเนินการตามขั้นตอนสำหรับผู้ถือหุ้นอย่างถูกต้องทุกประการ และดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามกฎหมายบริษัทของญี่ปุ่น

เมตาแพลนเน็ตปกป้องแนวทางธรรมาภิบาลองค์กร

จากกระแสคาดเดาเกี่ยวกับการ “เข้าตลาดทางอ้อม” ของบริษัทญี่ปุ่นที่หันมาทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล นายเกอร์โรวิชได้ชี้แจงว่า การปรับโครงสร้างของเมตาแพลนเน็ตสู่บริษัทถือครองบิตคอยน์นั้น ดำเนินการผ่านการประชุมผู้ถือหุ้นที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการตลอดกระบวนการ
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เมตาแพลนเน็ตได้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหมด 5 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการประชุมวิสามัญ 4 ครั้ง และการประชุมสามัญประจำปี 1 ครั้ง

เกอร์โรวิชอธิบายว่า การตัดสินใจสำคัญทุกครั้งของบริษัท เช่น การแก้ไขข้อบังคับบริษัท การออกหุ้นบุริมสิทธิ และการเพิ่มทุนเพื่อซื้อบิตคอยน์ ล้วนผ่านความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นทั้งสิ้น
“ธรรมาภิบาลองค์กรคือรากฐานของทุกการตัดสินใจของเมตาแพลนเน็ต” เกอร์โรวิชกล่าว พร้อมย้ำว่าทีมผู้บริหารและกระบวนการตัดสินใจของบริษัทนั้นมีความต่อเนื่องและมั่นคงตั้งแต่ก่อนที่บริษัทจะเปลี่ยนมาเน้นธุรกิจบิตคอยน์

ผลประกอบการไตรมาส 3 แข็งแกร่ง หนุนโดยกำไรจากบิตคอยน์

ในรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 เมตาแพลนเน็ตระบุว่าบริษัทมีกำไรนอกการดำเนินงาน (non-operating income) อยู่ที่ 20.6 พันล้านเยน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากกำไรประเมินมูลค่าบิตคอยน์ตามกลยุทธ์การบริหารทุนสำรองของบริษัท
เฉพาะในไตรมาส 3 เพียงอย่างเดียว บริษัทมีกำไรจากการประเมินมูลค่าถึง 10.6 พันล้านเยน หลังจากที่มีกำไร 17.4 พันล้านเยนในไตรมาส 2 และขาดทุน 7.4 พันล้านเยนในไตรมาสแรก ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความผันผวนของบิตคอยน์ แต่ยังคงแสดงแนวโน้มขาขึ้นตลอดปี 2025

แม้ราคาจะผันผวน เมตาแพลนเน็ตยืนยันว่าธุรกิจถือครองบิตคอยน์ของบริษัทมีความคืบหน้าอย่างมั่นคงและไม่ได้พึ่งพาการเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้น
นอกจากนี้ บริษัทรายงานค่าใช้จ่ายนอกการดำเนินงานจำนวน 190 ล้านเยน จากการตัดจำหน่ายต้นทุนการออกหุ้น และภาษีเงินได้ 9.35 พันล้านเยน ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับกำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัล
สินทรัพย์รวมและส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงผลของกลยุทธ์สะสมบิตคอยน์ที่ส่งผลให้ฐานะทางการเงินแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มุ่งเน้นความโปร่งใสและการสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น

เมตาแพลนเน็ตได้อัปเกรดระบบเปิดเผยข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถรับรายงานและอัปเดตทางการเงินผ่านอีเมลโดยตรง ซึ่งเป็นการเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพการสื่อสารกับผู้ถือหุ้นทั้งรายใหญ่และรายย่อย
มาตรการนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของความพยายามในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของตลาดโลกที่จับตามองบทบาทของเมตาแพลนเน็ตในฐานะผู้นำด้านการนำบิตคอยน์เข้าสู่ระบบธุรกิจองค์กร

เกอร์โรวิชกล่าวเพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงสำคัญทั้งหมดของบริษัทนับตั้งแต่เริ่มเปลี่ยนสู่ธุรกิจบิตคอยน์ ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะและได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเสมอ
“เราดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวังและมีความรับผิดชอบ” เขากล่าว พร้อมปฏิเสธข้อกังวลเรื่องการข้ามขั้นตอนทางกฎหมายหรือทางปฏิบัติ

สู่การเป็นบริษัทถือครองบิตคอยน์ชั้นนำแห่งเอเชีย

ด้วยการเติบโตทางการเงินที่แข็งแกร่ง วินัยทางกระบวนการ และความมุ่งมั่นด้านความโปร่งใส เมตาแพลนเน็ตได้สร้างตำแหน่งให้ตนเองเป็นต้นแบบของการนำบิตคอยน์มาใช้ภายใต้กรอบกฎหมายในญี่ปุ่น
กลยุทธ์ของบริษัทสะท้อนแนวทางเดียวกับไมโครสแตรทจี (MicroStrategy) ในสหรัฐฯ ที่ใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่าในระยะยาว ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อทั่วโลก
เมื่อใกล้สิ้นปี 2025 เมตาแพลนเน็ตจึงยังคงเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทจดทะเบียนในเอเชียที่นำบิตคอยน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรององค์กร — ก้าวสำคัญที่อาจเปิดทางให้สถาบันอื่นๆ ในภูมิภาคเดินตามรอยต่อไป