เงินไหลออก Ethereum ทะลุ 787.7 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินไหลเข้า Bitcoin แตะ 246 ล้านดอลลาร์

ETFs ของ Ethereum เพิ่งบันทึกเงินไหลออกสูงสุดประจำสัปดาห์ถึง 787.7 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการพลิกกลับอย่างชัดเจนจากเดือนสิงหาคม ซึ่งมีเงินไหลเข้าราว 3.9 พันล้านดอลลาร์ การขายหนักที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กันยายน วันเดียวมีเงินไหลออกถึง 447 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะกองทุน ETHA ของ BlackRock สูญเสียไปประมาณ 310 ล้านดอลลาร์ ส่วน Fidelity และ Grayscale ก็มีการไถ่ถอนจำนวนมาก ขนาดของการขายที่เกิดขึ้นในหลายผู้ให้บริการชี้ชัดว่าเป็นการปรับพอร์ตของสถาบัน ไม่ใช่เพียงแค่การถอนเงินของนักลงทุนบางราย.

ETFs ของ Bitcoin มีเงินไหลเข้ารวม 246 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์

ด้าน ETFs ของ Bitcoin เคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้าม ดึงเงินไหลเข้ารวม 246.4 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์เดียวกัน โดย FBTC ของ Fidelity และ IBIT ของ BlackRock เป็นผู้นำด้านเงินไหลเข้า ความแตกต่างนี้ย้ำให้เห็นว่า Bitcoin ถูกมองเป็นตัวเลือกความเสี่ยงต่ำ สถาบันมักใช้ Bitcoin เป็นเหมือนทองคำดิจิทัล โดยเฉพาะเมื่อเกิดความไม่แน่นอน ขณะนี้บรรยากาศตลาดก็สะท้อนความแตกต่างนี้

นักวิเคราะห์บางคนมองว่าเงินไหลออกจาก Ethereum เป็นการทำกำไรก่อนเผชิญแรงกระทบจากปัจจัยมหภาค ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ข้อมูลแรงงานสหรัฐอ่อนแอ และโอกาสที่ Fed จะผ่อนคลายมาตรการ สร้างบรรยากาศระมัดระวัง ในสภาพแวดล้อมนี้ เงินมักไหลไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และ ETFs ของ Bitcoin ได้ประโยชน์ ในขณะที่ ETFs ของ Ethereum มีความผันผวนสูง ทำให้ถือครองยากเมื่อความอยากเสี่ยงลดลง

ปัจจัยพื้นฐานของ Ethereum ยังคงแข็งแกร่งแม้เงินไหลออก

Ethereum ยังไม่อ่อนแอทางพื้นฐาน กิจกรรม DeFi ยังคงสูง มูลค่าที่ถูกล็อกอยู่ที่ 223 พันล้านดอลลาร์ ค่าธรรมเนียม Gas ลดลง 90% จากการอัปเกรดระบบขยายขนาด (scaling upgrade) กองทุนขนาดใหญ่ยังคง staking ETH มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ปัจจัยเหล่านี้ชี้ว่าเงินอาจไหลกลับเมื่อสภาพตลาดเสถียรขึ้น สำหรับตอนนี้ ETFs ของ Bitcoin ยังคงดึงดูดความไว้วางใจของสถาบัน ขณะที่ ETFs ของ Ethereum อยู่ภายใต้แรงกดดัน

ในระดับโลก ความชัดเจนด้านกฎระเบียบก็มีบทบาทต่อผลลัพธ์เช่นกัน แคนาดามีเงินไหลออกจาก Bitcoin ETF กว่า 700 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นเพราะนักลงทุนย้ายไปกองทุนสหรัฐหลังจากได้รับอนุมัติ ขณะที่ยุโรปมีความมั่นคงกว่า เสนอ ETP ที่หลากหลายพร้อมฟีเจอร์ staking ซึ่งกองทุนสหรัฐไม่มี ความแตกต่างของกฎระเบียบนี้อธิบายการหมุนเวียนของเงินบางส่วน

ราคาสะท้อนความผันผวนของ Ethereum

Ethereum ลดลงเกือบ 4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 4,322 ดอลลาร์ โดยมีตำแหน่งถูกชำระบัญชีราว 97 ล้านดอลลาร์ ส่วน Bitcoin ถูกชำระบัญชี 54 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Ethereum ยังคงฟื้นตัวในช่วงสั้น แสดงให้เห็นว่าความต้องการจากนักลงทุนรายย่อยและต่างประเทศชดเชยการถอนของสถาบัน.

แนวโน้มตามฤดูกาลชี้สัญญาณฟื้นตัวของตลาดคริปโต

ฤดูกาลก็เป็นสิ่งที่ควรจับตา เดือนกันยายนมักเป็นช่วงอ่อนตัวของคริปโต โดยเฉพาะหลังปี Halving นักวิเคราะห์ชี้ว่า Bitcoin มักหาจุดต่ำสุดในเดือนนี้ ก่อนฟื้นตัวในไตรมาส 4 นักลงทุนบางรายเชื่อว่า Ethereum อาจกลับไปแตะ 5,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นเดือนกันยายน ส่วนการขึ้นไป 6,000 ดอลลาร์มีโอกาสน้อย ระดับ 4,450 ดอลลาร์สำหรับ Ethereum และ 114,000 ดอลลาร์สำหรับ Bitcoin ถือเป็นจุดสำคัญที่อาจดึงสถาบันกลับเข้าตลาด

ภาพรวมใหญ่คือเรื่องบรรยากาศตลาดและกลยุทธ์สถาบัน เงินไหลเข้าออกกลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของความเคลื่อนไหวระยะสั้น ETFs ของ Ethereum เผชิญแรงกดจากการลดความเสี่ยง แต่บทบาทหลักใน DeFi ยังไม่เปลี่ยนแปลง ส่วน ETFs ของ Bitcoin ยังคงได้ประโยชน์จากความชัดเจนด้านกฎระเบียบและชื่อเสียงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ความแตกต่างนี้อาจคงอยู่จนกว่าสภาพเศรษฐกิจมหภาคจะเปลี่ยนแปลง