อีเธอเรียมเปิดตัว “Privacy Cluster” ยกระดับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บนเครือข่ายเลเยอร์ 1
Ethereum Privacy Cluster เปิดตัวพร้อมผู้เชี่ยวชาญ 47 คนเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้บนเครือข่าย Layer-1 หลักของ Ethereum

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
มูลนิธิ Ethereum จัดตั้ง “Privacy Cluster” ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ 47 คน
ทีมงานจะสร้างเครื่องมือความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับ Ethereum L1
มุ่งเน้นไปที่ระบบความรู้เป็นศูนย์และการถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นความลับ
ถือเป็นก้าวใหม่ในการพัฒนาความเป็นส่วนตัวของ Ethereum
มูลนิธิอีเธอเรียม (Ethereum Foundation) ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ในชื่อ “Privacy Cluster” ซึ่งประกอบด้วยนักวิจัย วิศวกร และนักเข้ารหัสชั้นนำ 47 คน โดยตามรายงานของ Cointelegraph กลุ่มนี้จะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาและยกระดับความเป็นส่วนตัวบนเครือข่ายเลเยอร์ 1 ของอีเธอเรียม
🔥 TODAY: Ethereum Foundation announces “Privacy Cluster” composed of 47 top researchers, engineers, and cryptographers to expand privacy efforts for the Ethereum L1 network. pic.twitter.com/9nLPROdwgP
— Cointelegraph (@Cointelegraph) October 9, 2025
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในแผนของอีเธอเรียม ที่ต้องการทำให้บล็อกเชนมีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ โดยคลัสเตอร์ใหม่นี้จะทำงานร่วมอย่างใกล้ชิดกับทีม Privacy and Scaling Explorations (PSE) ซึ่งมุ่งเน้นการวิจัยด้านความเป็นส่วนตัวและเทคโนโลยีใหม่ของอีเธอเรียมอยู่แล้ว
ทำไมอีเธอเรียมถึงให้ความสำคัญกับ “ความเป็นส่วนตัว”
ประเด็นความเป็นส่วนตัวถือเป็นหนึ่งในความท้าทายใหญ่ของวงการบล็อกเชน แม้ว่าการทำธุรกรรมบนอีเธอเรียมจะไม่แสดงชื่อจริงของผู้ใช้ แต่ที่อยู่กระเป๋าเงิน (wallet address) ก็ยังสามารถเชื่อมโยงกลับไปหาผู้ใช้งานได้ อีกทั้งรัฐบาลทั่วโลกยังเพิ่มกฎระเบียบทางการเงินและการติดตามออนไลน์ที่เข้มงวดขึ้น ทำให้ผู้คนกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจถูกเปิดเผยบนบล็อกเชนสาธารณะ
การพัฒนาความเป็นส่วนตัวจะช่วยให้อีเธอเรียมมอบการควบคุมข้อมูลกลับคืนสู่มือผู้ใช้ หมายความว่าผู้คนยังสามารถใช้ประโยชน์จากความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของระบบได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยกิจกรรมส่วนตัวมากเกินไป วีทาลิก บูเทอริน (Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม เคยกล่าวไว้ว่า “ความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่งคือหัวใจสำคัญในการรักษาความเปิดกว้างและความปลอดภัยของเครือข่ายสำหรับทุกคน”
บทบาทของ “Privacy Cluster”
Privacy Cluster ไม่ได้เป็นเพียงทีมวิจัยเท่านั้น แต่เป็นความร่วมมือเต็มรูปแบบที่มุ่งสร้างเครื่องมือด้านความเป็นส่วนตัวในระดับโครงสร้างของอีเธอเรียมโดยตรง สมาชิกจะศึกษาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ โดยเน้นเทคโนโลยีที่สามารถซ่อนรายละเอียดของธุรกรรมได้ ขณะเดียวกันก็ยังรักษาความสามารถในการตรวจสอบของเครือข่ายไว้
เป้าหมายหลักของทีม ได้แก่
- ระบบ Zero-knowledge: เครื่องมือที่ช่วยให้การยืนยันธุรกรรมสามารถทำได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
- ธุรกรรมแบบเป็นความลับ (Confidential transfers): ช่วยให้สามารถส่งและรับสินทรัพย์ได้โดยไม่ต้องเปิดเผยจำนวนเงินหรือที่อยู่กระเป๋า
- การป้องกันข้อมูลเมตา (Metadata protection): ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล เช่น ที่อยู่ IP หรือข้อมูลตำแหน่ง เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อกับโหนดของอีเธอเรียม
นอกจากนี้ ทีมยังมีหน้าที่กำหนดมาตรฐานและแนวทางสำหรับนักพัฒนาในการใช้งานเครื่องมือความเป็นส่วนตัวเหล่านี้อย่างปลอดภัยอีกด้วย
ความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า
การสร้างความเป็นส่วนตัวบนบล็อกเชนสาธารณะไม่ใช่เรื่องง่าย อีเธอเรียมจำเป็นต้องรักษาความเปิดเผยและความสามารถในการตรวจสอบได้ ขณะเดียวกันก็ต้องให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการปกปิดข้อมูลส่วนตัว การหาจุดสมดุลนี้ต้องอาศัยเวลา การทดสอบ และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดภายในชุมชน
อีกหนึ่งอุปสรรคคือด้านกฎระเบียบ รัฐบาลหลายประเทศมักระมัดระวังต่อเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย มูลนิธิอีเธอเรียมจึงต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า ความเป็นส่วนตัวสามารถอยู่ร่วมกับความรับผิดชอบได้ โดยมุ่งปกป้องผู้ใช้โดยไม่ปิดบังการกระทำผิด
ก้าวต่อไปของอีเธอเรียม: ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป คลัสเตอร์ใหม่นี้อาจเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ในอนาคต เพราะอาจนำไปสู่การทำธุรกรรมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น การซ่อนรายละเอียดกระเป๋าเงิน และการปกป้องตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าเดิม นักพัฒนายังสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่รองรับการสื่อสารหรือการซื้อขายแบบส่วนตัว ซึ่งอาจเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ในโลกของการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และ Web3
การก่อตั้ง Privacy Cluster แสดงให้เห็นว่าอีเธอเรียมไม่ได้ต้องการเป็นเพียงเครือข่ายที่โปร่งใส แต่ยังต้องการเป็นระบบที่ “ความเป็นส่วนตัว” ถูกฝังอยู่ในโครงสร้างตั้งแต่ต้น ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์เสริม และด้วยผู้เชี่ยวชาญ 47 คนที่มุ่งหน้าทำงานในภารกิจนี้ อีเธอเรียมได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า “ความเป็นส่วนตัว” จะเป็นหัวใจหลักของการเติบโตในระยะต่อไปของเครือข่ายนี้

ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

ญี่ปุ่นเปิดคลังสินทรัพย์ดิจิทัล Solana แห่งแรก ผ่านความร่วมมือ DeFi Development และ Superteam
Shweta Chakrawarty
Author

บิทคอยน์วาฬขาย 3,000 BTC แลก USDC หลังสวอป ETH มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์
Vandit Grover
Author

Deutsche Bank คาดการณ์ ธนาคารกลางจะถือ Bitcoin ภายในปี 2030
Vandit Grover
Author