อีเธอเรียมดีดตัวจากแนวรับ นักลงทุนจับตาท่าทีของเฟด

อีเธอเรียม (Ethereum) เผชิญกับการปรับฐานครั้งสำคัญเมื่อวานนี้ โดยร่วงลงไปแตะระดับ 3,900–3,950 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวกลับอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของราคาครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่เทรดเดอร์ลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนล่วงหน้า ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะประกาศนโยบายการเงิน อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ราคาชี้ว่า ฝั่งกระทิงยังคงสามารถยืนรักษาแนวรับสำคัญไว้ได้ แสดงถึงแรงซื้อที่ยังแข็งแกร่งอยู่ใต้พื้นผิวตลาด

นักลงทุนในตลาดเริ่มชะลอความคาดหวังลงก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ในสัปดาห์หน้า ผลการประชุมครั้งนี้อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดคริปโททั้งหมดในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า อีเธอเรียมได้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความสามารถในการยืนเหนือระดับสำคัญ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่เริ่มกลับมา และความระมัดระวังของเทรดเดอร์ที่อาจรอ “ซื้อเมื่อราคาตก” หากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณผ่อนคลาย

$ETH had a sharp correction yesterday but bounced back from the $3,900-$3,950 support zone.

I think this selling in Ethereum is primarily due to investors de-risking before today's FOMC meeting.

If Powell sounds dovish today, we could see a rally in ETH again. pic.twitter.com/DtIIgAkxdT

— Ted (@TedPillows) October 29, 2025

ทำไมอีเธอเรียมถึงปรับฐานก่อนการประชุม FOMC

การปรับตัวลงล่าสุดไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากการที่เทรดเดอร์ทยอยลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนก่อนที่เฟดจะออกแถลงการณ์นโยบายการเงิน ความไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนเลือกทำกำไรจากสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง และอีเธอเรียมก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น การร่วงลงมาที่ระดับ 3,900 ดอลลาร์จึงถือเป็นการปรับฐานเชิงสร้างสรรค์ภายในแนวโน้มขาขึ้นโดยรวม

บรรยากาศของตลาด ETH ตอนนี้อยู่ในภาวะ “เป็นกลาง” เนื่องจากเทรดเดอร์รอท่าทีที่ชัดเจนจากพาวเวลล์ ในอดีต การอ่อนตัวของราคาอีเธอเรียมก่อนการประชุม FOMC มักตามมาด้วยการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเมื่อธนาคารกลางส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบาย หรือแสดงท่าทีว่าไม่กังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อมากนัก เมื่อพิจารณาจากตัวเลขเงินเฟ้อที่เริ่มเย็นลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ลดระดับลง ตลาดอาจตอบรับในเชิงบวกหากพาวเวลล์ใช้ท่าทีผ่อนคลาย

ท่าทีของพาวเวลล์จะกำหนดทิศทางต่อไปของอีเธอเรียมอย่างไร

การประกาศของเฟดในครั้งต่อไปจะเป็นปัจจัยชี้ชะตาว่าอีเธอเรียมจะสามารถเดินหน้าต่อในแนวโน้มขาขึ้น หรือเข้าสู่ช่วงสะสมพลัง หากพาวเวลล์ส่งสัญญาณผ่อนคลาย ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงอาจกลับมา และ ETH อาจขึ้นไปทดสอบระดับ 4,100 ดอลลาร์หรือสูงกว่านั้น แต่ถ้าเฟดย้ำถึงความจำเป็นในการจับตาเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด นักลงทุนอาจกลับมาหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอีกครั้ง

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นโยบายการเงินของสหรัฐมีความสัมพันธ์กับตลาดคริปโทมากขึ้น ความผ่อนคลายของเฟดมักเพิ่มสภาพคล่องและกดดันค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสองปัจจัยที่เอื้อต่อราคาคริปโท เทรดเดอร์จึงจับตาการเคลื่อนไหวของอีเธอเรียมควบคู่ไปกับสัญญาณทางเศรษฐกิจมหภาค โดยมองว่าท่าทีของเฟดเป็นตัวบ่งชี้ระดับความผันผวนที่สำคัญ

สิ่งที่เทรดเดอร์ควรจับตา

ผลกระทบจากการประชุม FOMC จะไม่จำกัดแค่ตลาดอีเธอเรียม แต่ยังส่งผลต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ตลาดคริปโทมักตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อคำกล่าวของพาวเวลล์ โดยเฉพาะประเด็นอัตราดอกเบี้ยและแนวทางด้านสภาพคล่อง นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะคงจุดยืนเดิม แต่โฟกัสของตลาดจะอยู่ที่ “น้ำเสียง” ของพาวเวลล์ เพราะเพียงคำใบ้เล็กน้อยถึงความยืดหยุ่นทางนโยบาย ก็อาจกระตุ้นให้ราคา ETH ทะลุแนวต้านได้

นักวิเคราะห์เทคนิคกำลังจับตาแนวรับที่ 3,950 ดอลลาร์ และแนวต้านระยะสั้นที่ 4,200 ดอลลาร์ การทะลุเหนือระดับ 4,200 ดอลลาร์อาจบ่งชี้ว่าฝั่งกระทิงกลับมาควบคุมตลาดอีกครั้ง ขณะที่การหลุดต่ำกว่า 3,900 ดอลลาร์อาจสร้างแรงขายระยะสั้น ถึงอย่างนั้น กราฟระยะยาวยังคงสะท้อนโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแรงโดยรวม

อะไรต่อสำหรับเทรดเดอร์อีเธอเรียม

ในระยะสั้น การเคลื่อนไหวของอีเธอเรียมจะขึ้นอยู่กับการตีความของตลาดต่อสัญญาณนโยบายจากเฟด หากเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลาย โมเมนตัมขาขึ้นอาจกลับมาครอบคลุมตลาดคริปโททั้งหมด ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์จะจับตาการตอบสนองของบิตคอยน์ (Bitcoin) อย่างใกล้ชิด เพราะมักเป็นตัวกำหนดทิศทางให้กับอีเธอเรียมและอัลต์คอยน์อื่น ๆ

นอกเหนือจากปัจจัยมหภาคแล้ว พื้นฐานของเครือข่ายอีเธอเรียมยังคงแข็งแกร่ง ด้วยการพัฒนาที่ต่อเนื่องในด้านความสามารถในการขยายระบบและกิจกรรมในภาค DeFi ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีเธอเรียมยังคงเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อยเลือกใช้เพื่อเข้าถึงโลกของบล็อกเชน ไม่ว่าจะในช่วงตลาดขาขึ้นหรือขาลง อีเธอเรียมก็ยังคงเป็นศูนย์กลางความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก