วาฬ Ethereum ซื้อ ETH มูลค่า 1,33 พันล้านดอลลาร์ ด้วยเงินกู้จาก Aave

วาฬ Ethereum รายใหญ่รายหนึ่งได้สร้างความฮือฮาในชุมชนคริปโต หลังจากเข้าซื้อ ETH มูลค่ามหาศาลกว่า 1,33 พันล้านดอลลาร์ โดยใช้เงินที่กู้ยืมจาก Aave ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้แบบกระจายศูนย์ที่ใหญ่ที่สุด ข้อมูลบนบล็อกเชนที่เปิดเผยโดยบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Lookonchain แสดงให้เห็นว่ามีการซื้อ ETH มูลค่าสูงหลายครั้งระหว่างวันที่ 4 ถึง 12 พฤศจิกายน นับเป็นหนึ่งในดีลซื้อ ETH แบบใช้เลเวอเรจที่ใหญ่ที่สุดในช่วงหลัง กระเป๋าเงินนี้ซึ่งได้รับฉายาว่า “วาฬกู้ 66k ETH” ดูเหมือนจะกำลังสะสม ETH อย่างต่อเนื่อง โดยใช้เหรียญ Stablecoin ที่กู้มาเป็นทุนในการซื้อขาย

การสะสม ETH มูลค่า 1,33 พันล้านดอลลาร์

ข้อมูลบนบล็อกเชนระบุว่าวาฬรายนี้เชื่อมโยงกับหลายกระเป๋าเงิน รวมถึง 0x85e05C, 0x6e9e81E และ 0xE5C248D โดยได้ซื้อ ETH ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 385.718 ETH คิดเป็นมูลค่ารวม 1,33 พันล้านดอลลาร์ในราคาปัจจุบัน ภายในช่วงเวลาเพียง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา วาฬรายนี้ได้เพิ่มการถือครองอีก 30.548 ETH คิดเป็นมูลค่าประมาณ 105,3 ล้านดอลลาร์

ที่น่าสนใจคือ พลังการซื้อประมาณ 270 ล้านดอลลาร์มาจากเหรียญ Stablecoin ที่กู้จาก Aave เป็นหลัก ได้แก่ USDC และ USDT โดยวาฬรายนี้ดูเหมือนจะใช้ ETH ที่ฝากไว้เป็นหลักประกันก่อนจะทำการกู้ แล้วนำเงินที่ได้มากลับมาซื้อ ETH เพิ่มอีก

ข้อมูลจาก Aave แสดงให้เห็นว่าวาฬรายนี้มีสินทรัพย์ที่ฝากไว้ในรูปแบบ wrapped ETH (WETH) รวมมูลค่ากว่า 584 ล้านดอลลาร์ และมียอดกู้ Stablecoin อยู่ที่ 270 ล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราสุขภาพ (health ratio) ประมาณ 2,1 ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย แต่ถือว่ามีเลเวอเรจสูงมาก

การใช้เลเวอเรจขนาดใหญ่และการเคลื่อนไหวบนตลาดแลกเปลี่ยน

ประวัติการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนแสดงให้เห็นถึงรูปแบบการเคลื่อนไหวของวาฬรายนี้อย่างละเอียด การโอนเงินจำนวนมหาศาลใน USDC จาก Aave ถูกส่งไปยังกระเป๋าร้อนของ Binance เพื่อแปลงเป็น ETH จากนั้น ETH ที่ได้จะถูกย้ายกลับไปยังกระเป๋าในระบบ DeFi ซึ่งน่าจะเพื่อรักษาสภาพคล่องหรือใช้เป็นหลักประกันในการกู้เพิ่มเติม

ตัวอย่างเช่น ภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง วาฬรายนี้ได้กู้ USDC มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ นำไปแลกเป็น ETH จำนวน 12.687 เหรียญ จากนั้นฝากโทเคนเหล่านี้เข้าโปรโตคอลแบบกระจายศูนย์ ธุรกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้งตลอดทั้งวัน สะท้อนให้เห็นถึงการสะสมเชิงกลยุทธ์มากกว่าการเก็งกำไรตามจังหวะตลาด นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่ากิจกรรมแบบนี้อาจเพิ่มความผันผวนของราคา ETH โดยเฉพาะหากวาฬรายนี้ถูกบังคับชำระบัญชีเมื่อราคา Ethereum ร่วงลงอย่างรุนแรง

วาฬอีกตัวเข้าร่วมขบวนซื้อ ETH

นอกจากนั้น ยังมีนักลงทุนรายใหญ่รายที่สองที่ถูกระบุว่ามีกระเป๋าเงินหมายเลข 0x9992 เข้ามาเข้าร่วมในกระแสการซื้อ ETH ด้วยเลเวอเรจเช่นกัน วาฬรายนี้เพิ่งกู้ USDC มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์จาก Aave เพื่อนำไปซื้อ ETH ประมาณ 2.909 เหรียญ

เขาได้เพิ่มสินทรัพย์ในพอร์ตที่มีอยู่เดิมกว่า 83.816 ETH คิดเป็นมูลค่าราว 289 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันกระเป๋านี้มียอดกู้ Stablecoin มากกว่า 122 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงและกลยุทธ์การลงทุนที่ใกล้เคียงกับวาฬรายแร

การคาดการณ์ในตลาดเริ่มร้อนแรง

การสะสม ETH ของวาฬหลายรายโดยใช้เงินกู้ได้จุดกระแสคาดการณ์ในตลาดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ราคา Ethereum จะพุ่งขึ้น ก่อนถึงช่วงที่คาดว่าจะมีการอนุมัติ ETF ของ ETH ในต้นปี 2026 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าการใช้เลเวอเรจในระดับสูงเช่นนี้อาจนำไปสู่ความผันผวนรุนแรง หากเกิดการชำระบัญชีจำนวนมาก

ในตอนนี้ วาฬเหล่านี้ดูเหมือนจะยังมั่นใจในแนวโน้มขาขึ้นของ Ethereum และเดินหน้าซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้สังเกตการณ์ในวงการ DeFi กำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าเหตุการณ์นี้อาจกลายเป็นปัจจัยกระตุ้นครั้งใหญ่ในวัฏจักรราคาของ ETH หรือไม่