ราคา Bitcoin ร่วงสู่ 90,000 ดอลลาร์ หลังตลาดตอบสนองต่อแนวโน้มเชิงลบของหุ้นเทคสหรัฐ

ตลาดคริปโตเผชิญแรงขายรอบใหม่ในวันที่ 11 ธันวาคม เมื่อราคา Bitcoin ร่วงลงมาใกล้ระดับ 90,000 ดอลลาร์ เทรดเดอร์ตอบสนองต่อความอ่อนแออย่างหนักของหุ้นเทคยักษ์ใหญ่สหรัฐ ส่งผลให้ตลาดในวงกว้างเผชิญแรงกดดัน บรรยากาศการลงทุนเป็นไปอย่างระมัดระวัง ขณะที่ความต้องการรับความเสี่ยงลดลง และความผันผวนกลับมาปกคลุมสินทรัพย์ดิจิทัล การเปลี่ยนทิศทางของตลาดแบบฉับพลันสร้างความประหลาดใจให้กับผู้เล่นที่คาดหวังการเคลื่อนไหวที่นิ่งกว่านี้ในสัปดาห์นี้

แรงขายรอบนี้สร้างความกังวลในตลาด เพราะเทรดเดอร์คาดหวังว่าระดับราคาสูงสุดก่อนหน้านี้จะเป็นแนวรับที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเชิงลบของหุ้นเทคทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลลง แรงขายยิ่งทวีความรุนแรงเมื่อบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของสหรัฐออกคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนลง ซึ่งกระตุ้นความกลัวว่าตลาดอาจเข้าสู่ช่วงการปรับฐานระยะสั้น สินทรัพย์เสี่ยงตอบสนองเป็นลำดับแรก และตลาดคริปโตรับแรงกระแทบทันที

แนวโน้มตลาดคริปโตโดยรวมพลิกสู่แดนลบภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง Ethereum, Solana และโทเคนขนาดใหญ่หลายตัวปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ความผันผวนที่กลับมาอีกครั้งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าปัจจัยมหภาคยังคงกำหนดทิศทางตลาดคริปโต การร่วงลงครั้งนี้ยังสะท้อนว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลตอบสนองต่อสัญญาณจากตลาดหุ้นอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนด้านผลประกอบการ ความเชื่อมโยงระหว่างหุ้นเทคและคริปโตยังคงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ

🚨BTC FALLS TO $90K AMID TECH STOCKS WEAK OUTLOOK#Bitcoin fell 2.5% to around $90K on Dec 11 as crypto markets saw renewed selling. $ETH also slid 4.3% to $3,196 after weak outlooks from US tech stocks.🇺🇸 pic.twitter.com/85CpMhHWUL

— Coin Bureau (@coinbureau) December 11, 2025

เทรดเดอร์ตอบสนองต่อการร่วงของ Bitcoin ขณะแรงกดดันมหภาคเพิ่มขึ้น

ราคา Bitcoin ร่วงเกือบ 2.5% ในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อขายของสหรัฐ แรงขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทรดเดอร์ติดตามการปรับตัวลงของฟิวเจอร์ส Nasdaq ความเชื่อมั่นในตลาดอ่อนตัวลงหลังนักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการเติบโตของบริษัทเทคชั้นนำ ส่งผลให้การลดความเสี่ยงในตลาดหุ้นลุกลามเข้าสู่ตลาดคริปโต

นักวิเคราะห์หลายรายระบุว่าการร่วงครั้งนี้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาดคริปโตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เทรดเดอร์ติดตามระดับแนวรับและแนวต้านอย่างใกล้ชิด การหลุดโซนเทคนิคสำคัญสร้างความกังวลว่าอาจเกิดการปรับฐานที่ลึกขึ้น เทรดเดอร์ระยะสั้นจำนวนมากลดอัตราทด (เลเวอเรจ) ลง ขณะที่ความผันผวนกระจายไปทั่วแพลตฟอร์มซื้อขายหลัก

หุ้นเทคฉุดตลาดคริปโต ขณะความเชื่อมโยงกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

การอ่อนตัวของหุ้นเทคได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดทั่วโลก นักวิเคราะห์พบความเชื่อมโยงระหว่างหุ้นเทคและคริปโตที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มเชิงลบของหุ้นเทคทำให้เทรดเดอร์เฮดจ์สถานะในสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน นักลงทุนจำนวนมากจัดให้ Bitcoin และ Ethereum เป็นสินทรัพย์เสี่ยงสูง ดังนั้นเมื่อหุ้นร่วง มักเห็นแรงดึงลงแบบคู่ขนานในตลาดคริปโต

ราคา Bitcoin ตอบสนองอย่างรวดเร็ว แม้สภาพคล่องจะยังแข็งแรงในแพลตฟอร์มใหญ่ เทรดเดอร์ระบุว่าข่าวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะเปราะบาง ผู้เล่นส่วนหนึ่งคาดว่าตลาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอดสัปดาห์ แต่คำเตือนด้านผลประกอบการจากบริษัทเทคสหรัฐทำให้มุมมองเปลี่ยนไปทันที

ความเปลี่ยนแปลงนี้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับแนวโน้มของตลาดคริปโต นักลงทุนสถาบันลดการถือครอง ขณะที่จับตาความอ่อนแอของตลาดหุ้น กระแสนี้อาจดำเนินต่อไปหากสัญญาณมหภาคยังไม่นิ่ง นักวิเคราะห์คาดว่าความผันผวนจะยังสูงจนกว่าตลาดจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับผลประกอบการของกลุ่มเทค

Ethereum ร่วงแรงกว่า ขณะนักลงทุนเริ่มระวังมากขึ้น

เทรดเดอร์ Ethereum เผชิญแรงขายหนักกว่า เนื่องจากโทเคนไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญได้ แนวโน้มเชิงลบจากตลาดหุ้นเทคยิ่งกระตุ้นแรงขาย ขณะที่เทรดเดอร์ลดความเสี่ยงในอัลต์คอยน์ที่มีความเสี่ยงสูง นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า Ethereum มักตอบสนองแรงในช่วงที่ความผันผวนถูกขับเคลื่อนจากตลาดหุ้น ซึ่งรูปแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งในการร่วงครั้งนี้

โทเคนปรับตัวลงกว่า 4% ขณะที่สภาพคล่องของสถานะระยะสั้นหดตัว แนวโน้มตลาดคริปโตในวงกว้างสะท้อนบรรยากาศระมัดระวัง อัลต์คอยน์หลายตัวปรับตัวลดลงในลักษณะเดียวกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดกำลังลดความเสี่ยงโดยรวม การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามใหม่เกี่ยวกับทิศทางของ Ethereum และตลาดโดยรวมในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์บางส่วนมองว่าการร่วงครั้งนี้เป็นการ “รีเซ็ต” ที่ดี ราคา Bitcoin ยังอยู่เหนือแนวรับระยะยาวอย่างมาก ผู้เล่นในตลาดเชื่อว่าความผันผวนอาจเปิดโอกาสเข้าซื้อ หากแรงกดดันด้านมหภาคเริ่มคลี่คลาย