ข่าว

ระบบนิเวศของ XRP ร้อนแรงอีกครั้ง หลัง Grayscale ยื่นขอ ETF และแผนการโทเค็นใหม่

การยื่นเอกสาร SEC ล่าสุดของ Grayscale สำหรับ XRP Trust และโครงการโทเค็นมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ของ VivoPower ในเกาหลีใต้ ถือเป็นสัญญาณของการขยายตัวของยูทิลิตี้ในโลกแห่งความเป็นจริง

ระบบนิเวศของ XRP ร้อนแรงอีกครั้ง หลัง Grayscale ยื่นขอ ETF และแผนการโทเค็นใหม่

ระบบนิเวศของ XRP กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจาก Grayscale ผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งได้ยื่นเอกสารแก้ไขเพิ่มเติมสำหรับกองทุน XRP Trust ETF ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) การยื่นเอกสารครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อบทบาทของ Ripple ในการโทเค็นสินทรัพย์โลกจริง (Real-World Asset: RWA) โดยเฉพาะหลังจาก VivoPower เปิดโครงการใหม่มูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ในเกาหลีใต้ที่อิงกับ XRP ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ได้สร้างความเชื่อมั่นใหม่ในหมู่ผู้ถือ XRP ที่มองเห็นการยอมรับจากสถาบันและการนำไปใช้จริงในเวลาเดียวกัน

Grayscale เดินหน้าผลักดัน XRP ETF

ตามเอกสารที่ยื่นต่อ SEC ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน Grayscale ได้ยื่น Amendment No. 2 ต่อแบบฟอร์ม S-1 สำหรับกองทุน XRP Trust โดยระบุว่า Grayscale Investments Sponsors, LLC เป็นผู้สนับสนุนกองทุน มี Edward McGee ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และบริษัทกฎหมาย Davis Polk & Wardwell LLP เป็นที่ปรึกษากฎหมาย

หากได้รับอนุมัติ กองทุน XRP Trust ETF จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงระบบนิเวศของ XRP ผ่านตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสู่การเข้าถึงในวงกว้าง นักวิเคราะห์ตลาดเชื่อว่าการยื่นครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เนื่องจากการประชุม Ripple Swell ที่จะจัดขึ้นในดูไบ ระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน กำลังสร้างกระแสคาดการณ์ว่า Ripple อาจประกาศความร่วมมือหรือโครงการโทเค็นใหม่ระดับสถาบัน

VivoPower เดิมพันกับโทเค็นบน XRP

อีกหนึ่งแรงหนุนให้ระบบนิเวศของ Ripple ขยายตัวคือการที่ VivoPower International ประกาศลงทุน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในบริษัทเทคโนโลยีสภาพอากาศของเกาหลีใต้ชื่อ KWeather เพื่อถือหุ้น 20% ตามคำแถลงของบริษัท ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเปิดตัวโครงการ “WeatherCoin” ซึ่งเป็นโครงการโทเค็นที่สร้างสินทรัพย์ดิจิทัลสำรองและเปิดตัว WeatherCoin เป็นตราสารอนุพันธ์ที่สามารถนำไปใช้ในการบริหารความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ ตลาดพลังงาน และโซลูชันด้านความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

VivoPower ระบุว่าการลงทุนส่วนหนึ่งจะดำเนินการผ่านการถือครองหุ้นที่อิงกับ XRP ซึ่งสะท้อนถึงการนำ Ripple มาใช้เป็นสินทรัพย์ในการทำธุรกรรมและสินทรัพย์สำรองที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นักวิจัยคริปโตชื่อ Crypto Eri กล่าวถึงโครงการนี้ว่าเป็น “สัญญาณที่ชัดเจนว่า XRP กำลังก้าวข้ามจากการเป็นเพียงระบบชำระเงิน ไปสู่การเงินโลกจริงที่จับต้องได้”

โมเดลการโทเค็นชี้ถึงศักยภาพการประเมินมูลค่ามหาศาล

ท่ามกลางความเคลื่อนไหวเหล่านี้ แฟนคลับ XRP ได้หันกลับมาศึกษาแบบจำลองการประเมินมูลค่าที่คาดการณ์ศักยภาพราคาของ XRP ในอนาคต ล่าสุดบริษัท Silvercliff Partners ได้ใช้กรอบการวิเคราะห์แบบ Discounted Cash Flow (DCF) เพื่อประเมินธุรกรรมบน XRP ซึ่งให้มูลค่ายุติธรรมเชิงทฤษฎีสูงถึง 18.036 ดอลลาร์ต่อ XRP ภายใต้สมมติฐานการเติบโตในระดับสูงสุด

แม้ตัวเลขดังกล่าวจะถูกมองว่าเป็นเพียงการคาดการณ์ในเชิงเก็งกำไร แต่การศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ขยายตัวว่า Ripple อาจมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกที่ถูกโทเค็น ตัวแบบ DCF ยังเปรียบเทียบ XRP Ledger กับ “ท่อส่งของคุณค่า” โดยเน้นว่าประโยชน์จากการใช้งานจริง อัตราการนำไปใช้ และการลดลงของอุปทานตามเวลา อาจเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้มูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต

อนาคตที่กำลังบรรจบของ XRP

การยื่นขอ ETF ของ Grayscale การลงทุนด้านโทเค็นของ VivoPower และความสนใจจากสถาบันที่เพิ่มขึ้น สะท้อนภาพของระบบนิเวศ XRP ที่กำลังเปลี่ยนผ่าน การผสมผสานระหว่างโครงสร้างทางการเงินแบบดั้งเดิม เช่น ETF และการประยุกต์ใช้บล็อกเชนรูปแบบใหม่อย่าง WeatherCoin กำลังชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Ripple กำลังวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นศูนย์กลางของคลื่นสินทรัพย์ที่ถูกโทเค็นในอนาคต

ดังที่นักวิเคราะห์รายหนึ่งสรุปไว้ว่า “เรื่องราวของ XRP ในตอนนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องการชำระเงินอีกต่อไป แต่คือโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจที่ถูกโทเค็น”

Google News Icon

ติดตามเราบน Google News

รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด

ติดตาม