มูลค่าคริปโตของสหรัฐฯ พุ่งสูงถึง 23 พันล้านดอลลาร์ใน Bitcoin และ Ethereum

จากรายงานล่าสุดของ Coin Bureau ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ขณะนี้ถือครอง Bitcoin มูลค่า 22.95 พันล้านดอลลาร์ และ Ethereum มูลค่า 803.26 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขมหาศาลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าคริปโตได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบรัฐอย่างเต็มตัว ไม่ใช่เพียงเรื่องของนักลงทุนหรือเทรดเดอร์อีกต่อไป

แต่เรื่องราวเบื้องหลังมูลค่าคริปโตเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงแค่รัฐบาลซื้อ Bitcoin หรือ Ethereum เพื่อการลงทุนเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่เป็นคริปโตที่ถูกยึดมาจากคดีอาชญากรรมหรือการประมูลที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สหรัฐฯ ได้คริปโตจำนวนมากได้อย่างไร?

บางประเทศ เช่น เอลซัลวาดอร์ ซื้อ Bitcoin อย่างเปิดเผยเพื่อนำเข้าคลังสำรองของชาติ แต่การถือครองคริปโตของสหรัฐฯ เกิดขึ้นในวิธีที่แตกต่างออกไป

ยึดมาจากคดีอาชญากรรม: ส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของ FBI ที่ยึด Bitcoin, Ethereum หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ จากอาชญากรที่ถูกจับในคดีแฮ็ก ฟรอด หรือตลาดออนไลน์ผิดกฎหมาย

คำสั่งศาลให้ยึด: ในบางครั้ง ผู้พิพากษาจะสั่งให้คริปโตถูกโอนให้กับรัฐบาล เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางกฎหมายหรือการลงโทษ

ไม่ขายทันทีทั้งหมด: แม้ว่ารัฐบาลจะเคยประมูล Bitcoin ไปมาก แต่ไม่ใช่ว่าจะขายหมดอย่างรวดเร็ว สินทรัพย์บางส่วนยังคงอยู่ในวอลเล็ตของรัฐบาลหลายปีก่อนที่จะถูกขายจริง

ดังนั้นคริปโตที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ จึงเหมือนเป็น “มรดก” จากคดีอาชญากรรม มากกว่าการลงทุนโดยสมัครใจของรัฐบาล

ทำไมการถือครองเหล่านี้จึงสำคัญ

แม้ว่ารัฐบาลจะไม่ได้ซื้อแบบนักลงทุนทั่วไป แต่การถือ Bitcoin และ Ethereum จำนวนมากยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ผลกระทบต่อราคา: หากรัฐบาลตัดสินใจขายคริปโตส่วนใหญ่ ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เทรดเดอร์ต้องจับตาการประมูลของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด

ความสำคัญเชิงสัญลักษณ์: การถือครองเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าคริปโตเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของระบบทางการเงินมากเพียงใด เพราะสิบปีก่อนคงไม่มีใครคิดว่ารัฐบาลจะถือ Bitcoin จำนวนมากขนาดนี้

คำถามเชิงนโยบาย: รัฐบาลควรเก็บคริปโตที่ยึดมาเป็นสินทรัพย์สำรอง หรือควรขายทันที? ปัจจุบันยังไม่มีข้อกำหนดชัดเจน

ดาบสองคม

ปัญหาเดียวของการถือครองคือความผันผวน เพราะราคาของ Bitcoin และ Ethereum สามารถแกว่งตัวได้เร็ว ทำให้รัฐบาลอาจถือคริปโตมูลค่าหลายพันล้านวันนี้ แต่พรุ่งนี้อาจลดลงเป็นพันล้านก็ได้

นี่คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่บางคนมองว่า การถือคริปโตไว้นานเกินไปอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด แต่บางคนเห็นว่า การถือคริปโตเป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลและอาจมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต

สิ่งที่ควรจับตา

แถลงการณ์ทางการ: กระทรวงการคลังหรือกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ จะยืนยันหรืออธิบายตัวเลขเหล่านี้หรือไม่?

การประมูล: หากคริปโตของรัฐบาลถูกนำมาประมูลเพิ่ม อาจส่งผลต่อปริมาณการซื้อขายในตลาด

การเปลี่ยนนโยบาย: บางประเทศเริ่มนำคริปโตเข้าคลังสำรองของชาติแล้ว เรื่องนี้อาจกดดันให้สหรัฐฯ ตัดสินใจว่าควรเก็บและใช้งาน Bitcoin อย่างรอบคอบหรือไม่