ผู้นำคริปโต: สหรัฐฯ และจีนกำลังขับเคลื่อนโลก
Crypto Leadership แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาและจีนเป็นผู้นำด้าน crypto โดยให้การเข้าถึงที่เท่าเทียมกันแก่ผู้คน และกำหนดกฎเกณฑ์ระดับโลก

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
Eric Trump กล่าวว่าสหรัฐฯ และจีนเป็นผู้นำในด้านคริปโต
Bitcoin และเครือข่ายแบบกระจายอำนาจให้การเข้าถึงที่เท่าเทียมกันแก่ทุกคน
การเงินแบบดั้งเดิมนั้นเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนร่ำรวยจำนวนน้อยมานานแล้ว
ประเทศชั้นนำกำหนดรูปแบบเทคโนโลยี การลงทุน และกฎเกณฑ์ระดับโลก
ที่งาน Asia Bitcoin Summit เอริก ทรัมป์ กล่าวถึงบทบาทผู้นำของประเทศต่างๆ ในวงการคริปโต โดยระบุว่าสหรัฐฯ และจีนกำลังเป็นผู้นำในตลาดคริปโต ตามรายงานของ Wu Blockchain พร้อมชี้ว่าการเงินแบบดั้งเดิมที่ผ่านมาเอื้อประโยชน์แก่คนรวยเพียงกลุ่มเล็กๆ และทิ้งคนส่วนใหญ่ไว้ข้างหลัง
ทรัมป์กล่าวว่า Bitcoin และเครือข่ายแบบกระจายศูนย์อื่นๆ เปิดโอกาสที่เท่าเทียมให้ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ และเขาเรียกสิ่งนี้ว่า “wealth-agnostic access” หมายถึงการที่คนจากประเทศต่างๆ และฐานะที่แตกต่างกันสามารถใช้เครือข่ายเดียวกันได้อย่างเท่าเทียม
สหรัฐฯ และจีนเป็นผู้นำ
ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างมีระบบการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และอุตสาหกรรมคริปโตที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
เขากล่าวว่าประเทศอื่นๆ ยังอยู่ในช่วงทดลองแนวทางใหม่ๆ ขณะที่สองประเทศนี้ก้าวนำไปแล้ว พวกเขากำลังวางกฎ สร้างแพลตฟอร์มใหม่ และผลักดันการเติบโตของบล็อกเชน การกระทำของพวกเขาเป็นตัวกำหนดทิศทางของการพัฒนาคริปโตทั่วโลก
การเงินดั้งเดิม vs. คริปโต
เอริก ทรัมป์ชี้ให้เห็นว่าระบบการเงินดั้งเดิมมักจะเอื้อประโยชน์แก่คนรวยเพียงไม่กี่รายและเชื่อมโยงอยู่ในกลุ่มเล็กๆ ขณะที่ผู้ใช้ทั่วไปต้องเผชิญกับต้นทุนที่แพง กฎระเบียบที่ซับซ้อน และโอกาสที่จำกัด
ในทางตรงกันข้าม เครือข่ายแบบกระจายศูนย์ เช่น Bitcoin สามารถถูกใช้งานได้โดยทุกคน แม้แต่ผู้ที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา หรือมีเงินทุนน้อยก็ยังสามารถเข้ามาใช้งานคริปโตได้ เช่น คนที่อาศัยอยู่ในแอฟริกาก็มีโอกาสไม่ต่างจากคนที่อยู่ในวอลล์สตรีท
ระบบใหม่นี้เปิดโอกาสให้ผู้คนจำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วมในระบบการเงินโลก และสร้างโอกาสใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
ความหมายของ “wealth-agnostic access”
ทรัมป์ใช้คำว่า “wealth-agnostic access” เพื่ออธิบายถึงความเท่าเทียมในโลกคริปโต โดยย้ำว่าไม่สำคัญว่าคนๆ หนึ่งจะมีเงินมากน้อยเพียงใด มาจากที่ไหน หรือมีสถานะทางสังคมแบบใด ทุกคนยังสามารถใช้เครือข่ายได้อย่างเสมอภาค
พูดง่ายๆ คือ ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงเครื่องมือคริปโตได้อย่างปลอดภัยและสะดวก แม้แต่นักลงทุนรายย่อยก็สามารถโอนเงิน ลงทุน หรือเทรด ได้ไม่ต่างจากบริษัทยักษ์ใหญ่
เขายังระบุว่า วิธีการที่ยุติธรรมนี้ควรได้รับความสนใจจากหน่วยงานกำกับดูแล นักลงทุน และรัฐบาล เพราะจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบการเงิน
ผลกระทบต่อการเงินโลก
คำพูดของทรัมป์สะท้อนให้เห็นว่าคริปโตกำลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบการเงินโลก ประเทศที่ก้าวนำจึงเป็นผู้ที่กำลังสร้างกฎใหม่และพัฒนาเทคโนโลยีไปทั่วโลก
สำหรับสหรัฐฯ การเป็นผู้นำในคริปโตหมายถึงการสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับความปลอดภัย ส่วนจีนมุ่งพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล และผสานบล็อกเชนเข้ากับโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งสองประเทศจึงกำลังเปลี่ยนวิธีการใช้เงินในแบบของตนเอง
ความหมายต่อประชาชนทั่วไป
คริปโตทำให้ผู้คนมีอำนาจควบคุมเงินของตนเองมากขึ้น มอบการเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินที่ก่อนหน้านี้สงวนไว้เฉพาะธนาคารหรือมหาเศรษฐี
ทรัมป์กล่าวว่านี่อาจทำให้คนทั่วไปมีความรู้สึกว่าตนเองมีอำนาจมากขึ้น การใช้ Bitcoin หรือเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ช่วยเปิดโอกาสให้เกิดเสรีภาพทางการเงินใหม่ และทำให้พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น
นี่คือการท้าทายระบบการเงินดั้งเดิม ที่ความมั่งคั่งถูกควบคุมโดยคนเพียงไม่กี่กลุ่ม ขณะที่ปัจจุบันผู้คนจำนวนมากขึ้นสามารถมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจโลก
มองไปข้างหน้า
เอริก ทรัมป์ย้ำว่าคริปโตไม่ใช่แค่กระแสอีกต่อไป แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคตเกี่ยวกับวิธีที่ผู้คนจัดการกับเงิน แนวคิด wealth-agnostic access แสดงให้เห็นว่าบล็อกเชนสามารถสร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้กับทุกคน
เมื่อสหรัฐฯ และจีนอยู่แถวหน้าในการเป็นผู้นำคริปโต ทั้งสองประเทศมีพลังในการเปลี่ยนกฎและพัฒนาคริปโตในระดับโลก ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วไปและนักลงทุนต่างก็มีโอกาสเข้าถึงระบบการเงินที่ยุติธรรมมากกว่าที่เคยเป็นมา

ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด