บิตไมน์ถือครองอีเธอเรียม มูลค่าแตะ 8.1 พันล้านดอลลาร์
BitMine Ethereum Holdings มีมูลค่ารวม 8.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เป็นผู้ถือ ETH ขององค์กรที่ใหญ่ที่สุดและเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
ปัจจุบัน BitMine เป็นเจ้าของ ETH จำนวน 1,866,974 มูลค่ากว่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัทเพิ่ม ETH 150,000 ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็ว
BitMine มีเงินสดมูลค่า 635 ล้านดอลลาร์ที่พร้อมสำหรับการซื้อ Ethereum ในอนาคต
นักลงทุนสถาบันและรายย่อยกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดในขณะที่ BitMine เข้ามาถือหุ้นและขยายการถือครอง
บิตไมน์ อิมเมอร์ชัน เทคโนโลยีส์ (BitMine Immersion Technologies) เพิ่งก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่ถือครองอีเธอเรียม (Ethereum) มากที่สุดในโลก ตามรายงานของ Crypto.news บริษัทปัจจุบันถือครองอีเธอเรียม 1,866,974 ETH คิดเป็นมูลค่ากว่า 8.1 พันล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 1.5% ของอีเธอเรียมทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด
ตลอดช่วงที่ผ่านมา หลายบริษัทมักระมัดระวังในการเข้าซื้อคริปโตในปริมาณมาก แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของบิตไมน์สะท้อนว่าบริษัทขนาดใหญ่เริ่มมองอีเธอเรียมในฐานะการลงทุนระยะยาวอย่างจริงจัง
ก้าวสำคัญของบิตไมน์
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บิตไมน์เพิ่งเพิ่มการถือครองอีเธอเรียมมากกว่า 150,000 ETH ภายในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว การสะสมต่อเนื่องเช่นนี้ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอีเธอเรียม
กลยุทธ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว บริษัทอื่นอย่าง MicroStrategy ใช้วิธีการคล้ายกันกับบิตคอยน์มานานในฐานะสินทรัพย์เก็บมูลค่า ขณะที่บิตไมน์เลือกใช้อีเธอเรียมแทน ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าพวกเขากำลังวางแผนในระยะยาว
ทำไมนักลงทุนสถาบันจับตามอง
นักลงทุนรายใหญ่ รวมถึงกองทุนร่วมลงทุนต่างให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของบิตไมน์ หลายฝ่ายเริ่มมองอีเธอเรียมเกินกว่าการเก็งกำไร แต่เป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพเติบโตได้จริงในอนาคต
ประธานของบิตไมน์ถึงขั้นเปรียบการเติบโตของอีเธอเรียมกับพัฒนาการของตลาดการเงินดั้งเดิมเมื่อหลายสิบปีก่อน ความมั่นใจจากผู้เล่นระดับองค์กรเช่นนี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนรายใหญ่อื่น ๆ
เงินสดสำรองสำหรับการเคลื่อนไหวต่อไป
บิตไมน์ไม่ได้เพียงแค่ถือครองอีเธอเรียม แต่ยังมีเงินสดสำรองถึง 635 ล้านดอลลาร์เพื่อเตรียมเข้าซื้อเพิ่ม ความพร้อมด้านสภาพคล่องเช่นนี้ทำให้บริษัทสามารถเข้าซื้อได้ทันทีเมื่อเห็นโอกาส
นอกจากนี้ บิตไมน์ยังมีแผนนำบางส่วนของอีเธอเรียมไปทำสเตกกิ้ง (staking) ซึ่งหมายถึงการล็อก ETH เพื่อช่วยขับเคลื่อนเครือข่ายและรับรางวัลตอบแทน วิธีนี้ช่วยให้บริษัทสนับสนุนระบบอีเธอเรียมและสร้างรายได้ในเวลาเดียวกัน ถือเป็นกลยุทธ์ระยะยาวที่ชาญฉลาด
ความหมายต่อภาพรวมตลาด
การที่บริษัทเดียวถือครองอีเธอเรียมในปริมาณมากอาจส่งผลต่อตลาด ทั้งในด้านราคาและสภาพคล่อง แต่ในอีกด้านหนึ่งก็สะท้อนว่าการลงทุนในคริปโตสามารถเป็นทางเลือกที่มีเหตุผลสำหรับองค์กร
สำหรับนักลงทุนทั่วไป การเข้ามาของบิตไมน์อาจสร้างเสถียรภาพมากขึ้น การที่สถาบันขนาดใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องมักทำให้ตลาดดูปลอดภัยขึ้น และอาจจูงใจให้บุคคลและบริษัทอื่น ๆ หันมาใช้อีเธอเรียมมากขึ้นด้วย
มองไปข้างหน้า
บิตไมน์ตั้งเป้าหมายใหญ่คือการถือครองอีเธอเรียมถึง 5% ของอุปทานทั้งหมด หากทำสำเร็จ บริษัทจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อเครือข่าย ทั้งในด้านการสเตกกิ้ง การกำกับดูแล และทิศทางการเติบโตของอีเธอเรียมในอนาคต
เวลานี้บิตไมน์กำลังสะสมอย่างต่อเนื่อง ความรอบคอบดังกล่าวเป็นการยืนยันถึงความเชื่อมั่นในอีเธอเรียม และเป็นสัญญาณว่าภาคธุรกิจเริ่มให้ความสำคัญกับคริปโตมากขึ้น
บทสรุป
การเข้าซื้ออีเธอเรียมเกือบ 1.87 ล้าน ETH ของบิตไมน์ไม่ใช่แค่ตัวเลขพาดหัวข่าว แต่แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ เริ่มมองอีเธอเรียมเป็นการลงทุนระยะยาวที่จริงจัง ไม่ใช่เพียงการเดิมพันที่เสี่ยง
บิตไมน์ยังมีเงินสดสำรองพร้อมเข้าซื้อเพิ่มเติม และมีแผนทำสเตกกิ้งเพื่อช่วยเครือข่ายและสร้างรายได้ไปพร้อมกัน ส่งผลให้บริษัทกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในโลกอีเธอเรียมอย่างรวดเร็ว
ทั้งนักลงทุนรายย่อยและบริษัทใหญ่ต่างจับตามองบิตไมน์ เพราะกลยุทธ์การสะสมและสเตกกิ้งอีเธอเรียมของพวกเขาอาจกำหนดทิศทางการยอมรับคริปโตในอีกหลายปีข้างหน้า

ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด