บิตคอยน์เตรียมทะยานต่อ หลังรูปแบบการเคลื่อนไหวตาม FOMC ยังคงแข็งแกร่ง
itcoin ยังคงเป็นขาขึ้น หลังจากการประชุม FOMC ติดต่อกันสองสัปดาห์ไม่มีสัญญาณการลดลงสองครั้ง นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาจะทะลุแนวรับที่ 120,000-130,000 ดอลลาร์

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
Bitcoin ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นหลังจากการประชุม FOMC ติดต่อกัน 2 ครั้ง
ตลาดไม่ได้บันทึกช่วง FOMC ติดลบติดต่อกัน 2 ช่วง
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก 4.75% เป็น 4.0% ช่วยให้สภาพคล่องยังคงไหลเข้าสู่สกุลเงินดิจิทัล
แนวโน้ม RSI และโครงสร้างราคาตอกย้ำความแข็งแกร่งต่อเนื่อง
Crypto Rover บัญชีบน X (ทวิตเตอร์เดิม) ของนักวิเคราะห์ชื่อเดียวกัน (@cryptorover) โพสต์ระบุว่า บิตคอยน์อยู่ในช่วงตลาดขาขึ้นที่แข็งแรงแล้วในขณะนี้ หลังจากการประชุมติดต่อกันสองครั้งของคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) ไม่ได้ส่งผลให้เกิดช่วงการปรับตัวลงติดต่อกันสองครั้ง
กราฟที่เขาเผยแพร่แสดงผลการเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2025 โดยชี้ให้เห็นว่าการปรับฐานราว -1.3% ในปัจจุบันยังคงอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ใหญ่กว่า
Crypto Rover ระบุว่ารูปแบบนี้เป็นสัญญาณชัดเจนของการปรับตัวขึ้นระลอกใหม่ของราคาบิตคอยน์
IN THIS BULL MARKET, WE HAVEN’T SEEN TWO NEGATIVE PERIODS FOLLOWING CONSECUTIVE FOMCS.
— Crypto Rover (@cryptorover) October 29, 2025
THE NEXT PHASE SHOULD BE BULLISH! pic.twitter.com/NQZQEVgH5p
แนวโน้มที่ได้รับแรงหนุนจากข้อมูล FOMC
กราฟดังกล่าวจัดอันดับผลตอบแทนของบิตคอยน์หลังการประชุม FOMC แต่ละครั้งตั้งแต่ปี 2021
ข้อมูลระบุว่าบิตคอยน์มักฟื้นตัวหลังจากการปรับตัวลงเล็กน้อย
ระหว่างเดือนมีนาคมถึงกรกฎาคม 2025 ราคาบิตคอยน์ปรับขึ้นต่อเนื่อง 11.68% แต่หลังจากนั้นลดลงเล็กน้อยเพียง -1.19% และ -1.39% ตามลำดับ
การปรับตัวลงดังกล่าวยังไม่ถือว่าเป็นช่วงขาลงติดต่อกันสองครั้ง
การที่ FOMC ลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์มากขึ้น
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เริ่มลดดอกเบี้ยตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 และปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 4.0–4.25% ซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดคริปโทเคอร์เรนซี
ราคาบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้นกว่า 50% ตั้งแต่ปลายปี 2022 จนทะลุ 110,000 ดอลลาร์ในปี 2025 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อราคา
บิตคอยน์ตอบสนองต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
แนวโน้มในอดีตสะท้อนว่าบิตคอยน์มักปรับตัวดีในช่วงที่นโยบายการเงินผ่อนคลาย
ในช่วงปี 2021–2022 การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ทำให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลงถึง 16,000 ดอลลาร์
แต่แรงส่งของ BTC กลับมาอีกครั้งเมื่อธนาคารกลางเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปี 2024
นักเทรดคาดว่าหากการประชุม FOMC ครั้งต่อไปออกมาด้วยทิศทางบวก ตลาดบิตคอยน์อาจทะลุกรอบราคา 120,000–130,000 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคมองว่านี่เป็นสัญญาณความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น
ขณะที่ดัชนี RSI ยังบันทึก “จุดต่ำสุดที่ยกตัวสูงขึ้น” ซึ่งยืนยันว่าความกดดันฝั่งซื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยมหภาคหนุนแนวโน้มขาขึ้นของบิตคอยน์
ทิศทางขาขึ้นของบิตคอยน์ได้รับแรงสนับสนุนจากการลดดอกเบี้ย การเข้ามาของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น
ดัชนี Fear & Greed อยู่ที่ระดับ 34 บ่งชี้ถึงบรรยากาศระมัดระวังในตลาด
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์เชื่อว่าเมื่อดัชนีเปลี่ยนสู่ฝั่ง “ความโลภ” ราคาบิตคอยน์อาจเร่งตัวได้อีก
อีกหนึ่งปัจจัยที่อาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก คือข้อตกลงการลงทุนมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งอาจส่งผลทางอ้อมต่อการฟื้นตัวของบิตคอยน์
ในอดีต เหรียญอัลท์คอยน์มักปรับตัวขึ้นหลังจากราคาบิตคอยน์ทรงตัวในช่วงรอบการประชุม FOMC
นักวิเคราะห์คาดว่าอัลท์คอยน์จะเริ่มทะยานขึ้นทันทีที่ BTC สร้างขาขึ้นรอบใหม่ได้สำเร็จ
การขยายตัวของสภาพคล่องในตลาด รวมถึงการฟื้นความเชื่อมั่นในโครงการ DeFi และโปรเจกต์ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภายในวงการคริปโต บ่งชี้ว่าตลาดคริปโตโดยรวมอาจกำลังเข้าสู่ช่วงเติบโตระยะใหม่ในไม่ช้า
อ้างอิง
ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

La revisione del Trust Bank di Ripple si avvicina alla conclusione, rafforzando il sentiment su XRP
Shweta Chakrawarty
Author

Pi Network ปฏิเสธข่าวลือเปิดตัวเมนเน็ต และขยายระบบยืนยันตัวตน KYC
Shweta Chakrawarty
Author

Bitplanet แห่งเกาหลีใต้เพิ่มการถือครองบิตคอยน์เป็น 110.67 BTC
Shweta Chakrawarty
Author