ข่าว

บิตคอยน์ถูกปฏิเสธที่ระดับ 116,000 ดอลลาร์ แม้ตลาดหุ้นพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่

โดย

Vandit Grover

Vandit Grover

มาดูกันว่าเหตุใดราคา Bitcoin ที่ร่วงลงเมื่อราคา 116,000 ดอลลาร์จึงส่งสัญญาณขาลง และการที่ราคากลับมาอยู่ที่ 113,500 ดอลลาร์อีกครั้งจะหมายถึงอะไรต่อไป

บิตคอยน์ถูกปฏิเสธที่ระดับ 116,000 ดอลลาร์ แม้ตลาดหุ้นพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่

สรุปด่วน

สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว

  • Bitcoin ถูกปฏิเสธจากระดับแนวต้านที่ 116,000 ดอลลาร์ แม้ว่าตลาดหุ้นจะมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งก็ตาม

  • ราคาจะต้องกลับขึ้นไปที่โซน 113,500 ดอลลาร์อีกครั้งเพื่อสร้างแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง

  • การร่วงลงไปที่ระดับ 111,000 ดอลลาร์อาจช่วยเติมช่องว่าง CME และสร้างฐานการสนับสนุนใหม่

  • ความแตกต่างระหว่าง Bitcoin และตลาดแบบดั้งเดิมแสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังของนักลงทุนท่ามกลางความไม่แน่นอนในระดับมหภาค

ตามการวิเคราะห์ราคาล่าสุด บิตคอยน์ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเผชิญแรงกดดันอีกครั้งบริเวณระดับ 116,000 ดอลลาร์ แม้ว่าดัชนีตลาดหุ้นหลักจะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ในสัปดาห์นี้ แต่บิตคอยน์กลับไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญดังกล่าวได้ บ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแรงในระยะสั้น

ความเคลื่อนไหวที่แยกออกจากกันระหว่างตลาดหุ้นและตลาดคริปโตเริ่มเป็นที่จับตามองในหมู่นักเทรด ดัชนี S&P 500 และ NASDAQ กำลังทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลและยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่บิตคอยน์กลับแสดงสัญญาณสูญเสียแรงส่ง นักวิเคราะห์หลายรายมองว่านี่เป็นสัญญาณเตือนสำหรับนักลงทุนคริปโต ว่าความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงอาจเริ่มลดลงก่อนที่ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคและถ้อยแถลงจากธนาคารกลางจะถูกเผยแพร่ออกมา

โครงสร้างตลาดระยะสั้นในตอนนี้ดูเปราะบาง สำหรับบิตคอยน์ที่จะกลับมาฟื้นความเชื่อมั่นในตลาด จำเป็นต้องรักษาระดับแนวรับที่ 113,500 ดอลลาร์ไว้ให้ได้ มิฉะนั้น ราคามีแนวโน้มที่จะไหลลงสู่โซนแนวรับถัดไปบริเวณ 111,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่มีช่องว่างของสัญญา CME (CME gap) อยู่ด้วย ระดับนี้จึงเป็นพื้นที่ที่นักเทรดจำนวนมากกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด

การถูกปฏิเสธที่ระดับ 116,000 ดอลลาร์ บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้น

แนวต้านชั่วคราวที่ 116,000 ดอลลาร์บ่งบอกว่า การกลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้นของบิตคอยน์อาจได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บิตคอยน์พยายามหลายครั้งที่จะทะลุแนวต้านดังกล่าว แต่ไม่สามารถยืนเหนือได้ ส่งผลให้เกิดการถูกเทขายและแรงกดดันเพิ่มขึ้นในตลาด

ในรอบการปรับขึ้นก่อนหน้า ระดับราคานี้เคยเป็นแนวต้านสำคัญมาแล้ว ข้อมูลจากตลาดชี้ว่า นักลงทุนรายใหญ่บางส่วนเริ่มทำกำไร ขณะที่สถาบันการเงินเลือกถือสถานะป้องกันความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ตลาดโดยรวมอ่อนแรงลง ความเห็นของนักเทรดส่วนใหญ่ในตอนนี้คือ ควรจับตาว่าบิตคอยน์จะสามารถรักษาระดับเหนือ 113,500 ดอลลาร์ไว้ได้หรือไม่ ก่อนที่จะเกิดการปรับฐานขาลงรอบใหม่

เหตุผลที่ระดับ 113,500 ดอลลาร์มีความสำคัญต่อฝั่งบูลของบิตคอยน์

ระดับ 113,500 ดอลลาร์ได้กลายเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของแนวโน้มระยะสั้น การกลับมายืนเหนือระดับนี้จะเป็นสัญญาณของแรงซื้อที่เริ่มกลับมา และอาจเป็นตัวกระตุ้นให้ราคาทดสอบแนวต้าน 116,000 ดอลลาร์อีกครั้ง แต่หากไม่สามารถป้องกันระดับนี้ได้ ราคามีโอกาสปรับตัวลงต่อไปยังโซนแนวรับบริเวณ 111,000 ดอลลาร์

พื้นที่ 111,000 ดอลลาร์ยังตรงกับช่องว่างของสัญญา CME ที่ยังไม่ถูกปิด ซึ่งมักทำหน้าที่เป็น “แม่เหล็ก” ดึงราคากลับมาทดสอบ นักเทรดจำนวนมากมองว่าระดับนี้เป็นจุดปรับฐานที่ดี ก่อนที่ตลาดจะฟื้นตัวทางเทคนิคอีกครั้ง

ตัวชี้วัดทางเทคนิค RSI และ MACD เริ่มแสดงสัญญาณตัดลงในทิศทางขาลง ซึ่งหมายความว่าฝั่งซื้ออาจต้องเร่งเรียกแรงส่งกลับมา หากราคาสามารถปิดแท่งรายวันเหนือ 113,500 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง จะช่วยลบล้างมุมมองขาลง แต่เวลาสำหรับตลาดฝั่งบูลในการกลับมาควบคุมทิศทางกำลังเหลือน้อยลง

บิตคอยน์อาจร่วงสู่ระดับ 111,000 ดอลลาร์เป็นลำดับถัดไปหรือไม่?

หากบิตคอยน์ไม่สามารถฟื้นกลับเหนือเส้น 113,500 ดอลลาร์ในเร็ว ๆ นี้ การปรับตัวลงถัดไปอาจเคลื่อนไปที่ระดับ 111,000 ดอลลาร์ ช่องว่างของ CME บริเวณนั้นยังไม่ถูกทดสอบ และอาจดึงการเคลื่อนไหวของราคามาแตะได้ นักเทรดบางส่วนเชื่อว่า การปรับฐานระยะสั้นในระดับดังกล่าวอาจช่วยสร้างฐานราคาที่แข็งแรงขึ้นเพื่อให้ราคาดีดกลับได้ในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม หากแรงขายยังคงต่อเนื่องต่ำกว่า 111,000 ดอลลาร์ ตลาดอาจเผชิญการปรับฐานอีกครั้ง และมีโอกาสทดสอบระดับลึกถึง 108,000 ดอลลาร์ หรือแม้แต่ 106,500 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากเกิดการดีดตัวแรงเหนือ 113,500 ดอลลาร์ จะเป็นการลบล้างแนวโน้มขาลงและอาจกระตุ้นให้ราคากลับมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 116,000 ดอลลาร์อีกครั้ง.

Google News Icon

ติดตามเราบน Google News

รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด

ติดตาม