ธนาคารกลางรัสเซียยืนยันความเป็นไปได้ในการโทเคนสินทรัพย์หุ้นในประเทศสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

ตามรายงานของ RBC ธนาคารกลางรัสเซียกำลังประเมินโครงการโทเคนหุ้นของบริษัทในประเทศ เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติสามารถซื้อหุ้นผ่านตลาดดิจิทัลต่างประเทศได้

吴说获悉，据 RBC，俄罗斯央行正在评估将本国公司股票进行代币化，以便外国投资者可在海外市场购买。央行第一副行长 Chistyukhin 表示该方案“具有可行性”，但执行需依赖外国合作方提供代币化与交易平台支持。https://t.co/OB7bCpE49b

— 吴说区块链 (@wublockchain12) October 13, 2025

ธนาคารกลางรัสเซียประเมินแผนการโทเคนหุ้น

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อชดเชยข้อจำกัดการเข้าถึงตลาดทุนตะวันตกภายใต้การคว่ำบาตร โดยนักลงทุนต่างชาติจะสามารถซื้อหุ้นของบริษัทรัสเซียขนาดใหญ่เป็นส่วนเล็ก ๆ เพิ่มสภาพคล่องและลดอุปสรรคในการเข้าตลาด

ตั้งแต่ปี 2018 รัสเซียได้พัฒนาระบบบล็อกเชนผ่านแพลตฟอร์ม Masterchain ซึ่งเป็นระบบบัญชีแยกแบบกระจายที่พัฒนาร่วมกับ Sberbank ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ แพลตฟอร์มนี้อาจเป็นพื้นฐานของกระบวนการโทเคน ซึ่งจะรับประกันการปฏิบัติตามกฎหมายสินทรัพย์การเงินดิจิทัล (Digital Financial Assets – DFA) ที่เสนอในรัสเซียในปี 2021 การโทเคนหุ้นจะเป็นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ครั้งใหญ่ครั้งแรกในตลาดทุนของรัสเซีย

Chistyukhin: “ทำได้ แต่ต้องการความร่วมมือจากต่างประเทศ”

Chistyukhin ชี้ว่าแม้โมเดลนี้จะทำงานได้จริง แต่ยังต้องพึ่งพาพันธมิตรต่างชาติที่สามารถให้บริการโทเคนและแพลตฟอร์มซื้อขาย รัสเซียยังไม่มีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เพียงพอสำหรับการจัดการตลาดหุ้นโทเคนทั่วโลกด้วยตัวเอง

อีกประโยชน์หนึ่งที่เขากล่าวถึงคือโครงการนี้จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นระหว่างประเทศต่อทรัพยากรทางการเงินของรัสเซีย เนื่องจากการใช้ความโปร่งใสบนระบบบล็อกเชน

บริบทโลก: การโทเคนสินทรัพย์กำลังเกิดขึ้น

ในยุโรป การโทเคนสินทรัพย์ได้ถูกทดลองใช้แล้วในธนาคารกลางยุโรป JPMorgan และ UBS ในระดับโลก ตามการวิจัยตลาดของ Boston Consulting Group (BCG) คาดว่า สินทรัพย์โทเคนจะมีมูลค่าเกิน 16 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 หรือคิดเป็นประมาณ 10% ของ GDP โลก

แม้มีความหวัง แต่ผู้เชี่ยวชาญกังวลเกี่ยวกับความท้าทาย รัสเซียยังอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรทางการเงินของสหรัฐและสหภาพยุโรปจำนวนมาก ซึ่งทำให้ความร่วมมือกับประเทศอื่นเป็นเรื่องยาก ท่าทีที่ระมัดระวังของธนาคารกลางต่อคริปโตยังสร้างความไม่ชัดเจนในกรอบกฎหมายของตราสารดิจิทัลข้ามพรมแดน

กองทุนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะในจีนและอินเดีย กำลังให้ความสนใจต่อสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้บล็อกเชน