ทรัมป์ขยายบทบาทบน Solana เปิดตัว Project Wings

Project Wings คือก้าวล่าสุดจาก World Liberty เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในระบบนิเวศของ Solana โปรแกรมนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 10–11 กันยายน มาพร้อมคู่ซื้อขายของ USD1 stablecoin บน Bonk.fun และ Raydium ซึ่งเป็นสองแพลตฟอร์มที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดใน Solana หมายความว่า USD1 ได้ถูกนำเสนอโดยตรงต่อเทรดเดอร์ที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดบนเชนนี้ การซื้อขาย Stablecoin ถือเป็นรากฐานสำคัญของกิจกรรม DeFi ส่วนใหญ่ การเชื่อมต่อเข้ากับกระแสนี้ทำให้ Project Wings ไม่ใช่แค่การปล่อยตัวทางเทคนิค แต่เป็นความพยายามวางตำแหน่ง Trump Token และ World Liberty ให้อยู่ใจกลางการเติบโตของ Solana

กลยุทธ์คำนวณไว้ล่วงหน้ากับคู่ Stablecoin และรางวัลจูงใจ

กลยุทธ์นี้ตรงไปตรงมาแต่ถูกวางแผนมาอย่างรอบคอบ Project Wings มอบทางเลือกที่อ้างอิงค่าเงินดอลลาร์ซึ่งผู้ใช้คุ้นเคย พร้อมเพิ่มรางวัลส่งเสริมการขายเพื่อดึงดูดปริมาณการซื้อขาย สำหรับ World Liberty สิ่งนี้สร้างอุปสงค์ต่อเนื่องต่อ stablecoin ของตนเอง และขยายแบรนด์ Trump เข้าสู่ธุรกรรมคริปโตในชีวิตประจำวัน

อาณาจักรคริปโตที่ขยายตัวของทรัมป์และมูลค่าโทเคน

อาณาจักรคริปโตที่กว้างขึ้นของทรัมป์ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น Trump Token เพียงอย่างเดียวมีมูลค่ามากกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ World Liberty ถือครองโทเคน WLFI ราวหนึ่งในสี่ คิดเป็นมูลค่าราว 5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อรวมแล้วการถือครองของครอบครัวประเมินว่าเกิน 5 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว การขายโทเคนสร้างรายได้แล้วกว่า 500 ล้านดอลลาร์ ทำให้คริปโตกลายเป็นแหล่งความมั่งคั่งใหญ่ที่สุดในพอร์ตของทรัมป์ แซงหน้าอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าคริปโตได้กลายเป็นศูนย์กลางของทั้งแบรนด์และโมเดลธุรกิจแล้ว

ปฏิกิริยาตลาดต่อ WLFI และ Project Wings

ปฏิกิริยาตลาดสะท้อนทั้งความตื่นตัวและความกังวล WLFI ร่วงลงมากกว่า 50% จากจุดสูงสุดเปิดตัวที่ 0.40 ดอลลาร์ ปัจจุบันซื้อขายราว 0.21 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้ถึงโทเคโนมิกส์ที่อ่อนแอและการใช้งานที่จำกัดเป็นจุดบกพร่องเชิงโครงสร้าง บางฝ่ายมองว่า Project Wings เป็นเพียงการสร้างกระแสมากกว่าการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะเมื่อทรัมป์เองก็ยอมรับว่ามีความเข้าใจจำกัดต่อกลไกเบื้องหลังโทเคนเหล่านี้ ขณะที่อีกฝ่ายมองต่างออกไป เห็นว่า Project Wings แสดงให้เห็นว่าโทเคนสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องมือระดมทุน สร้างการมีส่วนร่วม และสร้างเงินทุนได้ในรูปแบบที่อุตสาหกรรมอื่นอาจนำไปปรับใช้

ความสนใจระดับโลกต่อ Project Wings และการซื้อขาย Stablecoin

World Liberty ดึงดูดดีลระดับโลกมาแล้ว รวมถึงการลงทุนจากจีน เม็กซิโก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิสราเอล ความพยายามซื้อขาย Stablecoin โดยรัฐบาลเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เช่น เวเนซุเอลากับ petro หรือเอสโตเนียกับ estcoins แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่ได้รับการมองเห็นหรือเชื่อมโยงกับบล็อกเชนกระแสหลักอย่าง Solana ในระดับนี้ มิตินี้เองที่ทำให้ Project Wings แตกต่าง และอธิบายได้ว่าทำไมผู้เล่นระดับนานาชาติจึงพร้อมเข้าร่วม

ความเสี่ยงด้านกำกับดูแลและการเมืองของโครงการคริปโตของทรัมป์

ความเสี่ยงมีอย่างมาก การผสานการเมืองเข้ากับโครงการคริปโตเอกชนจุดประเด็นจริยธรรมและการกำกับดูแลอย่างจริงจัง นักวิจารณ์เตือนว่าผู้นำที่ดำรงตำแหน่งอาจปล่อยให้ผลประโยชน์ทางการเงินส่วนตัวมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ จนเกิดความขัดแย้งในระดับสูงสุด วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน และผู้กำหนดนโยบายอีกหลายคนตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของการลงทุนที่มีต่างชาติหนุนหลังใน stablecoin ของทรัมป์ ขณะที่ผู้สนับสนุนโต้แย้งว่าการที่นักการเมืองหันมาใช้บล็อกเชนช่วยผลักดันให้สหรัฐฯ เดินหน้าใน “การแข่งขันอาวุธดิจิทัล” ที่จีนและประเทศคู่แข่งอื่นๆ ก็กำลังทดลองสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน ทั้งสองมุมมองเน้นย้ำว่า Project Wings อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนได้มากเพียงใด

สำหรับ Solana โปรแกรมนี้มอบสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายทันที แต่การนำไปใช้ระยะยาวจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นกับว่า USD1 จะยังคงได้รับความนิยมหลังช่วงโปรโมชั่นสิ้นสุดหรือไม่ หากเทรดเดอร์ยังใช้มันเป็นช่องทางเข้าดอลลาร์ที่น่าเชื่อถือ Project Wings อาจพัฒนาเป็นส่วนถาวรของระบบนิเวศ Solana หากไม่ ก็เสี่ยงจะเป็นเพียงอีกหนึ่งบทสั้นๆ ในวัฏจักรการปั่นกระแสโทเคน

เรื่องใหญ่กว่านั้นคือ Project Wings ผสานทุนทางการเมืองเข้ากับการยอมรับบล็อกเชนในระดับที่น้อยคนคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น มันตั้งแบบอย่างว่านักการเมืองอาจใช้การเงินดิจิทัลเพื่อทั้งสร้างอิทธิพลและผลประโยชน์ส่วนตนได้อย่างไร ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในครั้งนี้มีแนวโน้มจะกำหนดวิธีคิดของนักการเมืองทั่วโลกต่อการผนวกคริปโตเข้าสู่กลยุทธ์ของพวกเขาในอนาคต