ซีอีโอ CoinDCX “Sumit Gupta” เผยอินเดียครองแชมป์การยอมรับคริปโตโลก

Sumit Gupta ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ CoinDCX เปิดเผยความสำเร็จของอินเดียผ่านแพลตฟอร์ม X โดยอินเดียสามารถครองอันดับ 1 ของดัชนีการยอมรับคริปโตโลก (Global Crypto Adoption Index) ได้อีกครั้ง รายงานปี 2025 จาก Chainalysis ระบุว่าอินเดียรั้งตำแหน่งผู้นำเป็นปีที่สามติดต่อกัน ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศ Gupta เขียนว่า “แฮตทริกสำหรับอินเดีย” พร้อมเน้นย้ำถึงความโดดเด่นด้านการยอมรับในระดับรากหญ้า ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของชุมชนคริปโตในประเทศ

รายงานชี้ว่าอินเดียครองอันดับหนึ่งในทุกตัวชี้วัด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายรายย่อย กระแสเงินจากสถาบัน และการใช้งานด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) การกระจายตัวในหลายด้านนี้แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมที่หลากหลายของผู้ลงทุน ตั้งแต่นักลงทุนรายย่อยไปจนถึงสถาบันขนาดใหญ่ที่ร่วมขับเคลื่อนการเติบโต

เอเชียแปซิฟิกก้าวขึ้นนำการยอมรับคริปโตโลก

ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกลายเป็นศูนย์กลางการยอมรับคริปโตที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ข้อมูลจาก Chainalysis ระบุว่ากิจกรรมบนบล็อกเชนใน APAC เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปริมาณธุรกรรมขยับจาก 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ เป็น 2.36 ล้านล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 12 เดือน อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนามคือประเทศที่ขับเคลื่อนการเติบโต สะท้อนถึงความต้องการโซลูชันคริปโตในภูมิภาค ผู้ใช้งานจำนวนมากหันมาใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการโอนเงิน ค่าชำระเงิน และการลงทุน

Stablecoin โดยเฉพาะได้รับการยอมรับอย่างแข็งแกร่ง มักถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความผันผวนของสกุลเงิน ขณะเดียวกัน อเมริกาเหนือก็เสริมความแข็งแกร่ง รั้งอันดับ 2 ของภูมิภาค ความชัดเจนด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ สนับสนุนการเข้ามาของสถาบัน การอนุมัติ Bitcoin ETF แบบสปอตและความคืบหน้าเรื่องกฎหมาย Stablecoin ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของตลาด

ประเทศกำลังพัฒนาหนุนการยอมรับคริปโต

รายงานยังระบุว่าการยอมรับคริปโตไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประเทศร่ำรวย การเติบโตเกิดขึ้นในแทบทุกระดับรายได้ โดยเศรษฐกิจเกิดใหม่มีบทบาทสำคัญ ละตินอเมริกามีการยอมรับเพิ่มขึ้น 63% จากความต้องการการชำระเงินข้ามพรมแดนที่สูง แอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารามีอัตราการเติบโต 52% แสดงให้เห็นบทบาทของคริปโตในการโอนเงินและธุรกรรมประจำวัน ในภูมิภาคเหล่านี้ สินทรัพย์ดิจิทัลมักเป็นทางออกเพื่อเข้าถึงมูลค่าที่มั่นคงท่ามกลางค่าเงินท้องถิ่นที่ไม่เสถียร

ยุโรปตะวันออกก็แสดงอัตราการยอมรับสูงเมื่อเทียบกับขนาดประชากร โดยยูเครน มอลโดวา และจอร์เจีย นำในตารางที่ปรับตามปัจจัย เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและการเข้าถึงระบบธนาคารที่จำกัด ทำให้คริปโตกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หลายคนพึ่งพาสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการออมและการโอนเงินระหว่างประเทศ

Stablecoin ครองสัดส่วนธุรกรรมหลัก

Stablecoin ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจคริปโตทั่วโลก รายงานระบุว่า USDT และ USDC คือผู้เล่นหลัก ระหว่างเดือนมิถุนายน 2024 ถึงมิถุนายน 2025 USDT ประมวลผลธุรกรรมกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยแตะจุดสูงสุดที่ 1.14 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2025 ส่วน USDC มียอดธุรกรรมที่สูงกว่านี้ในบางช่วง อยู่ระหว่าง 1.24 ล้านล้านดอลลาร์ถึง 3.29 ล้านล้านดอลลาร์ต่อเดือน ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Stablecoin ต่อทั้งสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการชำระเงิน การซื้อขาย และการชำระบัญชีข้ามพรมแดน

ภูมิทัศน์ด้านกฎระเบียบของ Stablecoin ก็กำลังพัฒนาเช่นกัน ในสหรัฐฯ กฎหมาย GENIUS Act กระตุ้นความสนใจจากสถาบันแม้ยังไม่บังคับใช้ ขณะที่กรอบกฎหมาย MiCA ของสหภาพยุโรปเปิดทางให้มีการออก Stablecoin ที่มีการรับรองและอ้างอิงค่าเงินยูโร เช่น EURC

มองไปข้างหน้า

การครองความเป็นผู้นำของอินเดียสะท้อนถึงบทบาทในฐานะศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลโลก ฐานนักลงทุนรายย่อยที่แข็งแกร่งและการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นจากสถาบันช่วยสร้างความได้เปรียบ หากแนวโน้มปัจจุบันดำเนินต่อ อินเดียอาจครองตำแหน่งผู้นำด้านการยอมรับคริปโตไปอีกหลายปี

ในขณะเดียวกัน รายงานย้ำว่าการยอมรับคริปโตไม่ได้จำกัดอยู่เพียงบางภูมิภาค แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก ตั้งแต่เอเชีย แอฟริกา ไปจนถึงละตินอเมริกา มีผู้คนนับล้านหันมาใช้คริปโตในชีวิตจริง สำหรับบางคน มันคือโอกาสการลงทุน สำหรับอีกหลายคน มันคือการเข้าถึงเงินที่มั่นคงและบริการทางการเงิน

รายงานปี 2025 ทำให้เห็นชัดเจนว่า การยอมรับคริปโตไม่ใช่กระแสรองอีกต่อไป แต่เป็นการเคลื่อนไหวระดับโลกที่ขับเคลื่อนโดยความต้องการที่หลากหลาย ตั้งแต่การรักษามูลค่าไปจนถึงการชำระเงิน อินเดียอาจนำในตารางจัดอันดับ แต่แรงขับเคลื่อนถูกแบ่งปันไปทั่วทั้งภูมิภาคและทุกระดับรายได้