การยื่นขอผลิตภัณฑ์ ETP ด้านคริปโตแตะ 155 รายการ คาดแตะ 200 รายการในปีหน้า

Eric Balchunas นักวิเคราะห์อาวุโสด้าน ETF จาก Bloomberg เปิดเผยข้อมูลล่าสุดที่แชร์โดย Wu Blockchain โดยระบุว่าขณะนี้มีคำขอยื่นผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบซื้อขายในตลาด (ETP) ที่อ้างอิงสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่แล้วจำนวน 155 รายการ ครอบคลุมคริปโตทั้งหมด 35 สินทรัพย์ และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 200 รายการภายใน 12 เดือนข้างหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความเร็วที่ภาคการเงินดั้งเดิมเริ่มเปิดรับคริปโตในฐานะทางเลือกการลงทุนอย่างจริงจัง

Senior Bloomberg ETF analyst Eric Balchunas stated that there are currently 155 crypto ETP applications tracking 35 different digital assets, with the number expected to rise to 200 over the next 12 months. According to data charts, ETP applications related to Solana, Bitcoin,…

— Wu Blockchain (@WuBlockchain) October 22, 2025

ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในคริปโตหลัก

ตามข้อมูลของ Balchunas คำขอยื่น ETP ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้มุ่งเน้นไปที่ Solana (SOL), Bitcoin (BTC) และ XRP โดยแต่ละสินทรัพย์มีการยื่นขอมากกว่า 20 รายการ ขณะเดียวกัน Ethereum (ETH) และ ETP แบบตะกร้าที่รวมหลายสกุลคริปโตเข้าด้วยกันก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนการยื่นขอเกินระดับสองหลักแล้ว

การเพิ่มขึ้นของจำนวนคำขอนี้ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในคริปโตเริ่มขยายออกไปเกินกว่าแค่ Bitcoin นักลงทุนจำนวนมากขึ้นต้องการสำรวจสินทรัพย์ดิจิทัลทางเลือกที่มีกรณีการใช้งานแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น Solana มีจุดเด่นด้านความเร็วในการทำธุรกรรม ขณะที่ XRP เน้นการชำระเงินข้ามพรมแดน

ทำไมตอนนี้ถึงมีการยื่นขอ ETP จำนวนมาก?

มีหลายปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของคำขอยื่น ETP ในช่วงนี้

ประการแรก กฎระเบียบในหลายประเทศเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หน่วยงานรัฐและองค์กรกำกับดูแลทางการเงินกำลังพัฒนาโครงสร้างที่เอื้อต่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตอย่างปลอดภัยและโปร่งใส

ประการที่สอง นักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนขนาดใหญ่และบริษัทจัดการสินทรัพย์ แสดงความสนใจในคริปโตมากขึ้น พวกเขาต้องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ต้องถือหรือบริหารโทเคนโดยตรง ซึ่ง ETP ช่วยให้สามารถทำได้ผ่านโครงสร้างที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล

ประการที่สาม การแข่งขันระหว่างผู้จัดการสินทรัพย์กำลังร้อนแรงขึ้น ทุกฝ่ายต้องการเป็นผู้บุกเบิกในการเปิดตัว ETP ที่อ้างอิงเหรียญยอดนิยม การแข่งขันเพื่อความได้เปรียบของผู้เริ่มก่อนนี้เองที่ผลักดันให้มีการยื่นขอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความหมายต่อผู้ลงทุน

สำหรับทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน การเพิ่มขึ้นของจำนวน ETP หมายถึงทางเลือกที่มากขึ้นและการเข้าถึงตลาดคริปโตที่ง่ายขึ้น นักลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตโดยตรงอีกต่อไป แต่สามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับคริปโตผ่านบัญชีนายหน้าได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกที่มากขึ้นอาจนำมาซึ่งความซับซ้อน นักลงทุนจึงจำเป็นต้องเข้าใจว่าแต่ละ ETP อ้างอิงสินทรัพย์ใดและเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของตนหรือไม่ เนื่องจากไม่ใช่ทุกโทเคนจะมีสภาพคล่องสูงหรือได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบที่ชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลต่อผลตอบแทนการลงทุน

อีกปัจจัยที่ควรจับตาคือการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล หลายคำขอยื่นในปัจจุบันยังรอการอนุมัติอยู่ และมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่จะได้ออกสู่ตลาด ขึ้นอยู่กับท่าทีของหน่วยงานต่อปริมาณการยื่นขอที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความท้าที่ยังรออยู่

แม้ตลาดจะตื่นตัว แต่ไม่ใช่ทุก ETP ด้านคริปโตที่จะประสบความสำเร็จ บางโทเคนอาจเผชิญปัญหาทางกฎหมายหรือเทคนิค ขณะที่บางรายการอาจดึงดูดนักลงทุนได้ยากหลังเปิดตัว

นอกจากนี้ การแข่งขันด้านค่าธรรมเนียมอาจรุนแรงขึ้น เมื่อมีคำขอยื่นกว่า 150 รายการ บริษัทต่าง ๆ จะพยายามดึงดูดลูกค้าด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง ซึ่งอาจกระทบต่อกำไร ความท้าทายสำคัญในตอนนี้จึงไม่ใช่แค่การได้รับอนุมัติ แต่คือการสร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

สัญญาณของตลาดที่เริ่มเติบโตเต็มที่

โดยรวมแล้ว การเพิ่มขึ้นของคำขอยื่น ETP ด้านคริปโตถือเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังเติบโตและเข้าสู่กระแสหลักมากขึ้น ไม่กี่ปีก่อน ผลิตภัณฑ์ด้านคริปโตยังถูกมองว่าเสี่ยงเกินไปสำหรับนักลงทุนแบบดั้งเดิม แต่วันนี้กลับได้รับพื้นที่เคียงข้างหุ้นและพันธบัตร

Balchunas กล่าวปิดท้ายว่า จำนวน ETP อาจแตะ 200 รายการภายในปีหน้า หากเป็นจริง ปี 2026 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสการลงทุนในคริปโตยุคใหม่ภายใต้กรอบตลาดที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลทั่วโลก