ข่าว

โครงการทดลองสเตเบิลคอยน์ของญี่ปุ่นขยายตัว ขณะที่ธนาคารใหญ่ทดสอบเงินเยนดิจิทัล

โดย

Hanan Zuhry

Hanan Zuhry

โครงการนำร่อง Stablecoin ของญี่ปุ่นเริ่มต้นด้วยธนาคารชั้นนำทดสอบโทเค็นดิจิทัลเพื่อปรับปรุงการชำระเงินให้ทันสมัยและเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบการเงินของญี่ปุ่น

โครงการทดลองสเตเบิลคอยน์ของญี่ปุ่นขยายตัว ขณะที่ธนาคารใหญ่ทดสอบเงินเยนดิจิทัล

สรุปด่วน

สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว

  • ธนาคารชั้นนำของญี่ปุ่นเปิดตัวการทดสอบ Stablecoin ร่วมกันสำหรับการชำระเงินดิจิทัล

  • โครงการนำร่องนี้มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการทำธุรกรรมและเร่งการชำระเงิน

  • หน่วยงานกำกับดูแลสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อปรับปรุงระบบการเงินของญี่ปุ่น

  • ความสำเร็จอาจนำไปสู่การนำไปใช้ในวงกว้างมากขึ้นทั้งในกลุ่มธุรกิจและผู้บริโภค

ญี่ปุ่นกำลังก้าวครั้งสำคัญในด้านนวัตกรรมทางการเงิน ตามรายงานของ Coin Bureau โดยธนาคารชั้นนำของประเทศ ได้แก่ Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG), Sumitomo Mitsui Banking Corporation (SMBC) และ Mizuho Financial Group ได้เปิดตัวโครงการนำร่องเพื่อออกเหรียญ stablecoin โดยมีสำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (Financial Services Agency – FSA) ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ญี่ปุ่นต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีการเงินระดับโลก โดยธนาคารตั้งเป้าให้การชำระเงินรวดเร็วขึ้น ต้นทุนถูกลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งสำหรับภาคธุรกิจและผู้บริโภค

เข้าใจสเตเบิลคอยน์

สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) คือสกุลเงินดิจิทัลประเภทหนึ่งที่มีมูลค่าผูกกับสินทรัพย์จริง เช่น เงินเยนของญี่ปุ่น แตกต่างจากคริปโทเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum ที่มีความผันผวนสูง สเตเบิลคอยน์ให้ความมั่นคงด้านราคา จึงเหมาะสำหรับการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวันหรือการชำระเงินระหว่างประเทศ

ในระยะแรก ธนาคารจะออก โทเคนที่มีสินทรัพย์หนุนหลังด้วยเงินเยน และอาจขยายไปสู่โทเคนที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างประเทศ การดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อทำให้ระบบการชำระเงินมีความราบรื่นและช่วยลดค่าธรรมเนียมสำหรับภาคธุรกิจ

โครงการนำร่องจะทำงานอย่างไร

ธนาคารทั้งสามแห่งจะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มกลางเพื่อออกและหมุนเวียนสเตเบิลคอยน์ โดยจะทดสอบระบบในการทำธุรกรรมจริง พร้อมประเมินประสิทธิภาพในด้านความเร็ว ต้นทุน และความโปร่งใส

ขณะเดียวกัน FSA จะทำหน้าที่กำกับดูแลเพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยและเป็นไปตามกฎระเบียบ สเตเบิลคอยน์ที่ออกจะต้องได้รับการหนุนหลังเต็มจำนวน มีความปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานของธนาคาร การกำกับดูแลนี้จะช่วยให้ธนาคารสามารถขยายโครงการได้อย่างมั่นใจ

ทำไมญี่ปุ่นจึงเดินหน้าทำสิ่งนี้

สเตเบิลคอยน์อาจสร้างประโยชน์ให้ญี่ปุ่นในหลายด้าน ประการแรก ช่วยให้การชำระเงินรวดเร็วและประหยัดมากขึ้น ประการที่สอง ช่วยให้ภาคธุรกิจเข้าถึงการทำธุรกรรมในประเทศและต่างประเทศได้สะดวกขึ้น และประการที่สาม ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ญี่ปุ่นในเวทีเทคโนโลยีทางการเงินระดับโลก

การที่ธนาคารญี่ปุ่นออกโทเคนด้วยตนเอง แทนที่จะพึ่งพาแพลตฟอร์มจากต่างประเทศ ช่วยให้พวกเขายังคงควบคุมระบบได้ และเพิ่มความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับระบบการเงินของประเทศ

อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น

แม้โครงการจะมีศักยภาพสูง แต่ธนาคารยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ โดยต้องรักษาความโปร่งใสและการหนุนหลังโทเคนอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ธนาคารยังต้องโน้มน้าวให้ภาคธุรกิจนำสเตเบิลคอยน์มาใช้จริง หากบริษัทต่าง ๆ ยังลังเล โครงการอาจไม่สามารถเติบโตได้เต็มศักยภาพ อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบระดับโลกอาจส่งผลต่อระบบในอนาคต

ความหมายของโครงการนี้ต่อญี่ปุ่น

โครงการนำร่องสเตเบิลคอยน์ถือเป็นก้าวสำคัญของญี่ปุ่นในการยกระดับระบบการชำระเงิน หากประสบความสำเร็จ จะช่วยให้การทำธุรกรรมมีความรวดเร็ว ปลอดภัย และมีต้นทุนต่ำลงทั้งสำหรับภาคธุรกิจและผู้บริโภค

สำหรับธนาคารและหน่วยงานกำกับดูแล โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการเงิน แม้จะยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ แต่โครงการนี้อาจกลายเป็นต้นแบบให้กับธนาคารทั่วโลกในการออกสเตเบิลคอยน์อย่างปลอดภัย พร้อมสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต.

Google News Icon

ติดตามเราบน Google News

รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด

ติดตาม