เวียดนามเปิดตัวโครงการทดลองซื้อขายคริปโตระดับชาติครั้งแรก
เวียดนามเปิดตัวโครงการนำร่องการซื้อขายคริปโตระดับชาติครั้งแรกที่มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด ความต้องการเงินทุนที่สูง และโทเค็นที่รองรับด้วยสินทรัพย์

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
เวียดนามเปิดตัวโครงการนำร่องการซื้อขายคริปโตระดับชาติแห่งแรกที่มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด
ตลาดหลักทรัพย์ต้องการเงินทุน 10 ล้านล้านดอง ทำให้มีอุปสรรคในการเข้าสูงมาก
อนุญาตให้ซื้อขายคริปโตในเวียดนามได้เฉพาะโทเค็นที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์เท่านั้น
พลเมือง 17 ล้านคนมีสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เวียดนามก้าวออกจากท่าทีลังเลที่ยืดเยื้อมานานเกี่ยวกับคริปโต มาสู่การทดลองที่ควบคุมอย่างเข้มงวด รัฐบาลเปิดตัวโครงการนำร่อง 5 ปีเพื่อวางกรอบการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับชาติ กฎเกณฑ์เข้มตั้งแต่แรก ทุกธุรกรรมต้องใช้เงินดองเวียดนามเท่านั้น บริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินแพลตฟอร์มซื้อขายต้องเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าร่วมได้ แต่ห้ามถือหุ้นเกิน 49% ของแพลตฟอร์มใด ๆ ทั้งหมดนี้สะท้อนชัดว่ารัฐต้องการให้เกิดการยอมรับ แต่เป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนดเอง
กฎเข้มข้นกำหนดกรอบซื้อขายคริปโตในเวียดนาม
อุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดมีขนาดใหญ่ บริษัทใดที่ต้องการเปิดแพลตฟอร์มซื้อขาย ต้องมีเงินทุนขั้นต่ำ 10 ล้านล้านดองเวียดนาม หรือราว 379 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้เงินส่วนใหญ่ต้องมาจากนักลงทุนสถาบัน และธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ต้องถือหุ้นในสัดส่วนที่สำคัญ นี่ไม่ใช่สนามสำหรับสตาร์ทอัพรายเล็ก แต่ดูเหมือนเวียดนามต้องการให้เฉพาะสถาบันใหญ่ที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยง แต่ก็ทำให้ตลาดขาดความหลากหลาย
อนุญาตเฉพาะโทเคนที่มีสินทรัพย์หนุนหลัง
อีกข้อกำหนดที่โดดเด่นคือเรื่องการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์ อนุญาตเฉพาะโทเคนที่ผูกกับสินทรัพย์จริงเท่านั้น ไม่อนุญาต stablecoin ที่ผูกกับสกุลเงิน และไม่เปิดให้โทเคนที่เป็นการเก็งกำไรล้วน ๆ บริษัทเวียดนามสามารถออกโทเคนดิจิทัลได้ แต่ทำได้เฉพาะสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ส่วนผู้ใช้งานภายในประเทศสามารถซื้อขายได้ แต่ห้ามออกโทเคนเอง การตัดสินใจนี้สะท้อนว่ารัฐบาลกำลังแยกกิจกรรมภายในประเทศออกจากเงินทุนไหลเข้าจากต่างชาติ แต่ก็ยังเปิดช่องให้เงินทุนต่างประเทศเข้าสู่ตลาดภายใต้การควบคุม
การยอมรับคริปโตในเวียดนามมีผู้ใช้งานหลายล้านคน
ขนาดของการยอมรับคริปโตในเวียดนามทำให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้น่าจับตายิ่งขึ้น มีประชาชนราว 17 ล้านคนถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเกือบหนึ่งในห้าของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้เวียดนามติดอันดับท็อป 5 ของโลกด้านการใช้งานคริปโต จนถึงตอนนี้กิจกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นในพื้นที่สีเทา แต่โครงการนำร่องนี้กำหนดให้ผู้ใช้งานมีเวลา 6 เดือนหลังจากมีการออกใบอนุญาตแรก เพื่อนำสินทรัพย์ไปสู่แพลตฟอร์มที่ได้รับการกำกับดูแล หลังจากนั้นการซื้อขายนอกระบบที่ได้รับอนุญาตจะกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แม้บทลงโทษจะยังไม่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน แต่สาระสำคัญก็ชัดเจนแล้ว
กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลและกลยุทธ์บล็อกเชนในเวียดนาม
โครงการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว เวียดนามผ่านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อเดือนมิถุนายน และจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2026 นอกจากนี้ บล็อกเชนยังถูกระบุอย่างเป็นทางการให้เป็นภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ รัฐบาลเลือกใช้กฎระเบียบเพื่อบริหารจัดการนวัตกรรม แทนที่จะกดทับไม่ให้เกิดขึ้น ความร่วมมืออย่างเช่นระหว่าง Upbit ของเกาหลีใต้กับ Military Bank ของเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มระดับโลกมองเห็นโอกาส แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎที่เวียดนามวางไว้
เปรียบเทียบโมเดลซื้อขายคริปโตของเวียดนามกับระดับโลก
เมื่อมองในระดับโลก โมเดลของเวียดนามแตกต่างจากประเทศอื่น เอลซัลวาดอร์เลือกใช้บิตคอยน์เป็นเงินที่ชำระหนี้ตามกฎหมาย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ใช้นโยบายภาษีเพื่อดึงดูดความมั่งคั่งจากคริปโต สิงคโปร์สร้างกรอบใบอนุญาตที่เข้มงวด ส่วนสวิตเซอร์แลนด์สร้างศูนย์นวัตกรรมที่เมืองซุก ขณะที่เวียดนามเลือกโมเดลที่ไม่เน้นเสรีภาพของตลาด แต่เน้นการกำหนดกิจกรรมให้ไหลเข้าสู่ระบบระดับชาติที่ให้ความสำคัญกับเสถียรภาพและการควบคุม

ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด