วุฒิสภาสหรัฐฯ เปิดร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโต หวังปรับนิยามการกำกับดูแล Bitcoin ใหม่
มาดูกันว่าร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตฉบับใหม่ของสหรัฐฯ จะสามารถปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ Bitcoin และระบบนิเวศคริปโตทั้งหมดได้อย่างไร

สรุปด่วน
สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว
วุฒิสภาสหรัฐฯ เผยแพร่ร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์การควบคุมคริปโตใหม่
ร่างกฎหมายดังกล่าวแบ่งการกำกับดูแลระหว่าง SEC และ CFTC ตามประเภทสินทรัพย์
Bitcoin อาจได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในฐานะสินค้าดิจิทัลภายใต้โครงสร้างใหม่
การผ่านกฎหมายในช่วงปลายปีอาจปรับเปลี่ยนกรอบการทำงานของสกุลเงินดิจิทัลทั้งของสหรัฐฯ และของโลก
หลังจากรอคอยมานานหลายเดือน คณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตที่เป็นที่จับตา หากผ่านความเห็นชอบ มาตรการนี้อาจกลายป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การควบคุม เช่น Bitcoin, Ethereum และสเตเบิลคอยน์ในตลาดสหรัฐฯ ร่างกฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อขจัด “พื้นที่สีเทา” ทางกฎหมายที่สร้างความสับสนให้กับนักลงทุนและสถาบันมานานหลายปี
ร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตของสหรัฐฯ มุ่งหมายกำหนดให้ชัดเจนว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้ดูแลแต่ละส่วนของระบบนิเวศคริปโต ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การขาดเส้นแบ่งระหว่าง “หลักทรัพย์” และ “สินค้าโภคภัณฑ์” ในสินทรัพย์ดิจิทัลได้สร้างความสับสน และจำกัดนวัตกรรม ขณะเดียวกันก็ทำให้นักลงทุนสถาบันลังเลที่จะเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งขณะนี้ ดูเหมือนว่าสภานิติบัญญัติต้องการเปลี่ยนแปลงทิศทางนั้นอย่างจริงจัง
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่า หากร่างกฎหมายสามารถผ่านภายในสิ้นปีนี้ จะถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะช่วยให้สหรัฐฯ มีนโยบายคริปโตที่สอดคล้องกับมาตรฐานการเงินยุคใหม่ ความเคลื่อนไหวนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่า วอชิงตันเริ่มยอมรับแล้วว่าสินทรัพย์ดิจิทัลคืออนาคต และจำเป็นต้องมีกรอบการกำกับดูแลที่ส่งเสริมการพัฒนา ขณะเดียวกันก็ปกป้องผู้บริโภค
🚨HUGE: 🇺🇸Senate commitee has finally released the long-awaited DRAFT of the crypto market structure bill.
— Coin Bureau (@coinbureau) November 11, 2025
The bill, set to overhaul how #Bitcoin & crypto are regulated, is expected to PASS by year-end. pic.twitter.com/scVzfq4Rld
ทำไมร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตจึงสำคัญในเวลานี้
ช่วงเวลาของการออกกฎหมายฉบับนี้ถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง ขณะที่มหาอำนาจอื่นทั่วโลก ทั้งสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ต่างมีกรอบกฎหมายคริปโตที่ชัดเจนแล้ว สหรัฐฯ กลับยังคงติดอยู่กับระบบกำกับดูแลที่ซ้ำซ้อนระหว่าง SEC และ CFTC ร่างกฎหมายใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อยุติ “ศึกแย่งเขตอำนาจ” ด้วยการวางขอบเขตความรับผิดชัดเจน
ตามร่างโครงสร้างที่เสนอไว้ เหรียญคริปโตที่ดำเนินการบนเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ (decentralized) จะอยู่ภายใต้การกำกับของคณะกรรมาธิการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) ส่วนโทเคนที่เชื่อมโยงกับโครงการหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งจะอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) การแบ่งขอบเขตนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความชัดเจนให้กับธุรกิจที่พัฒนาอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชน
กฎหมายฉบับนี้ยังอาจกำหนดสถานะของ Bitcoin ให้เป็น “สินค้าโภคภัณฑ์ดิจิทัล” อย่างเป็นทางการ แทนที่จะถูกจัดเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้ Bitcoin มีฐานะทางกฎหมายที่มั่นคงยิ่งขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่นักลงทุนและนักขุดที่เรียกร้องการยอมรับภายใต้กฎหมายสินค้าโภคภัณฑ์มานานต่างรอคอย
สรุปประเด็นสำคัญในร่างกฎหมาย
ร่างกฎหมายฉบับนี้เสนอแนวทางการกำกับดูแลแบบแบ่งชั้น โดยพิจารณาจากระดับการกระจายศูนย์ หน้าที่การใช้งาน และพฤติกรรมในตลาด โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่ การคุ้มครองนักลงทุน ความโปร่งใสของตลาด และการส่งเสริมนวัตกรรม
นอกจากนี้ ยังระบุให้แพลตฟอร์มซื้อขายและโบรกเกอร์ที่ดำเนินการเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโต ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งดำเนินมาตรการป้องกันการฉ้อโกง และปฏิบัติตามมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลเช่นเดียวกับตลาดทุนแบบดั้งเดิม กรอบการกำกับดูแลนี้พยายามสร้างสมดุลระหว่าง “การป้องกันความเสี่ยง” และ “การส่งเสริมนวัตกรรม” ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนสถาบัน — ปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ตลาดเติบโตต่อไปในอนาคต
สำหรับสเตเบิลคอยน์ ร่างกฎหมายระบุถึงการกำกับดูแลโดยหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เพื่อจัดการความเสี่ยงจากการขาดทุนสำรองหรือการเปิดเผยข้อมูลไม่ครบถ้วน ต่างจากระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิม เป้าหมายคือป้องกันความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงิน ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เครือข่ายการชำระเงินดิจิทัลมีความยืดหยุ่นสูงสุด
บทสรุป
หากกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้จริง นี่อาจเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการเงินดิจิทัล ที่ตั้งอยู่บนหลัก “ความโปร่งใส ความปลอดภัย และนวัตกรรม” สำหรับนักลงทุน ถือเป็นสัญญาณว่าสหรัฐฯ ในฐานะเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก กำลังยอมรับคริปโตอย่างเป็นทางการภายใต้กรอบกฎหมาย แทนที่จะต่อต้านจากภายนอก
สำหรับรัฐบาลทั่วโลก ร่างกฎหมายนี้อาจกลายเป็นหมุดหมายสำคัญ ที่เปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับการกำกับดูแล Bitcoin และวางรากฐานให้กับแนวทาง “รับผิดชอบแต่ก้าวหน้า” อย่างแท้จริง สำหรับอุตสาหกรรมที่ติดอยู่กับความไม่แน่นอนมานาน ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้จุดประกายสิ่งใหม่ — ความหวังที่ตั้งอยู่บนโครงสร้างที่ชัดเจน.
ติดตามเราบน Google News
รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

Moomoo เปิดให้ซื้อขาย BNB สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ และสิงคโปร์
Shweta Chakrawarty
Author

บราซิลเดินหน้าก้าวใหญ่: บริษัทคริปโตเตรียมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลเต็มรูปแบบของธนาคารกลาง
Vandit Grover
Author

รายได้ไตรมาส 3 ของ TeraWulf พุ่งแตะ 50,6 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางการขยายธุรกิจขุดเหมือง
Hanan Zuhry
Author