นักลงทุนรายย่อยเพิ่มเลเวอเรจ 2.4 พันล้านดอลลาร์ท่ามกลางความกลัวในเดือนธันวาคม ขณะที่วาฬค่อยๆ ถอนตัว

ข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจาก CryptoQuant เผยให้เห็นความแตกต่างด้านพฤติกรรมที่ชัดเจนในตลาด Bitcoin ช่วงเดือนธันวาคม ขณะที่กิจกรรมการซื้อขายโดยรวมลดลงเกือบ 40% นักลงทุนรายย่อยกลับเปิดสถานะด้วยเลเวอเรจราว 2.4 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนว่าความต้องการรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอน การเพิ่มเลเวอเรจเกิดขึ้นทั้งที่การเคลื่อนไหวของราคายังไม่แข็งแกร่งนัก และบ่งชี้ว่าผู้เล่นจำนวนมากพยายาม “ขายความกลัว” ด้วยเงินที่กู้ยืมมา แทนการถือครองแบบสปอต กราฟที่แนบมาด้วยติดตามความผันผวนของ open interest ในช่วง 24 ชั่วโมงบนแพลตฟอร์มซื้อขายรายใหญ่อย่าง Binance และ Bybit โดยพบจุดพีคของเลเวอเรจซ้ำๆ ที่พุ่งขึ้นเกือบ 800 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว ขณะที่ Bitcoin ยังเคลื่อนไหวอยู่ในโซน 90,000 ดอลลาร์

วาฬถอนตัว ขณะที่รายย่อยเพิ่มเดิมพัน

เมื่อเทียบกับพฤติกรรมของนักลงทุนรายย่อย ข้อมูล on-chain ชี้ว่าวาฬได้เทขาย Bitcoin ราว 20,000 BTC ในช่วงเวลาเดียวกัน นี่เป็นสัญญาณว่าเงินทุนมืออาชีพลดความเสี่ยงลง ขณะที่นักลงทุนที่ประสบการณ์น้อยกว่าเพิ่มการเปิดรับความเสี่ยง ตามการวิเคราะห์ของ @Crazzyblockk ผู้ร่วมให้ข้อมูลกับ CryptoQuant ความแตกต่างลักษณะนี้ในอดีตมักเกิดขึ้นใกล้จุดสูงสุดระยะสั้น หรือในช่วงการสะสมกำลังที่ไม่มั่นคง ซึ่งเลเวอเรจเพิ่มขึ้นเร็วกว่าความต้องการที่แท้จริง

รูปแบบตลาดที่คุ้นเคยกำลังก่อตัว

ข้อสังเกตดังกล่าวยังตอกย้ำลักษณะร่วมของวัฏจักรคริปโต นั่นคือเลเวอเรจมักเพิ่มขึ้นในช่วงที่ตลาดหวาดกลัว ไม่ใช่ช่วงมองบวก เมื่อราคาไม่สามารถปรับขึ้นอย่างชัดเจนได้ แม้จะมีเงินไหลเข้าในรูปของเลเวอเรจจำนวนมาก ตลาดจะเปราะบางและเสี่ยงต่อการถูกล้างพอร์ตอย่างรุนแรง แม้ราคาอ่อนตัวเพียงเล็กน้อย CryptoQuant มองพฤติกรรมนี้ในเชิงให้ความรู้ มากกว่าการทำนาย โดยเตือนถึงความเสี่ยงของการใช้เลเวอเรจในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน

แล้วสิ่งนี้หมายถึงอะไรในอนาคต

แม้เลเวอเรจจะไม่ใช่หลักประกันของการเข้าสู่ตลาดขาลง แต่ความไม่สมดุลระหว่างการถอนตัวของเงินทุนมืออาชีพกับความดื้อดึงของนักลงทุนรายย่อยก็เพียงพอให้ต้องจับตา หากความผันผวนเพิ่มขึ้น สถานะที่ใช้เลเวอเรจสูงอาจถูกกระตุ้น และการเคลื่อนไหวของราคาทั้งสองทิศทางจะรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า เลเวอเรจที่ขับเคลื่อนด้วยความกลัวไม่เหมือนกับเลเวอเรจที่มาจากความเชื่อมั่น และความสามารถในการแยกแยะสองสิ่งนี้อาจมีคุณค่าอย่างยิ่งในการนำทางตลาดช่วงปลายวัฏจักร