ข่าว

ธนาคารกลางอังกฤษเสนอเพดานถือครองสเตเบิลคอยน์: บุคคลไม่เกิน 20,000 ปอนด์ ธุรกิจไม่เกิน 10 ล้านปอนด์

โดย

Vandit Grover

Vandit Grover

มาดูกันว่าการกำหนดเพดานมูลค่า stablecoin ใหม่ของสหราชอาณาจักรที่ 20,000 ปอนด์อาจปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์การควบคุมคริปโตและส่งผลกระทบต่อนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างไร

ธนาคารกลางอังกฤษเสนอเพดานถือครองสเตเบิลคอยน์: บุคคลไม่เกิน 20,000 ปอนด์ ธุรกิจไม่เกิน 10 ล้านปอนด์

สรุปด่วน

สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว

  • BOE เสนอให้กำหนดเพดาน stablecoin ไว้ที่ 20,000 ปอนด์สำหรับบุคคล และ 10 ล้านปอนด์สำหรับธุรกิจ

  • การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินท่ามกลางการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ที่เพิ่มมากขึ้น

  • นักวิจารณ์เตือนว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดขวางนวัตกรรมในภาคธุรกิจคริปโตของสหราชอาณาจักร

  • นักวิจารณ์เตือนว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดขวางนวัตกรรมในภาคธุรกิจคริปโตของสหราชอาณาจักร

ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England – BOE) ได้เสนอแนวทางใหม่ที่กำหนดเพดานการถือครองสเตเบิลคอยน์ เพื่อจำกัดจำนวนโทเคนดิจิทัลที่บุคคลและภาคธุรกิจสามารถถือได้ โดยภายใต้นโยบายใหม่นี้ บุคคลทั่วไปจะสามารถถือสเตเบิลคอยน์ได้ไม่เกิน 20,000 ปอนด์ ส่วนธุรกิจส่วนใหญ่จะถูกจำกัดไว้ที่ไม่เกิน 10 ล้านปอนด์ ข้อเสนอนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐกิจคริปโตในสหราชอาณาจักร ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลพยายามสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับเสถียรภาพของระบบการเงิน

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการหารือภายในที่ยาวนานเกี่ยวกับบทบาทที่เพิ่มขึ้นของโทเคนดิจิทัลในระบบการเงิน เนื่องจากการใช้สเตเบิลคอยน์ในการชำระเงินและการชำระบัญชีกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ธนาคารกลางอังกฤษจึงมองสถานการณ์นี้ด้วยความกังวล เพราะการนำสเตเบิลคอยน์มาใช้ในวงกว้างอาจส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากระบบเงินฝากในธนาคารแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจกระทบต่อโครงสร้างสินเชื่อโดยรวมของประเทศ การจำกัดปริมาณถือครองจึงถูกมองว่าเป็นมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการถอนสภาพคล่องในวงกว้าง ซึ่งอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดเครดิตโดยรวม

หตุผลที่ BOE เห็นว่าการจำกัดเพดานสเตเบิลคอยน์เป็นสิ่งจำเป็น

ธนาคารกลางอังกฤษให้เหตุผลหลักว่าการตัดสินใจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษา “เสถียรภาพทางการเงิน” เนื่องจากเมื่อสเตเบิลคอยน์เริ่มได้รับการยอมรับในวงกว้าง หน่วยงานกำกับดูแลกังวลว่าผู้บริโภคอาจย้ายเงินจำนวนมากออกจากธนาคารไปถือสเตเบิลคอยน์แทน การเคลื่อนย้ายเงินทุนเช่นนี้อาจทำให้ปริมาณเงินที่ธนาคารใช้ปล่อยกู้ลดลง และบั่นทอนประสิทธิภาพของนโยบายการเงินโดยรวม

เจ้าหน้าที่ของ BOE ยังระบุว่า สเตเบิลคอยน์เริ่มทำหน้าที่ “คล้ายเงิน” มากขึ้น โดยเฉพาะในการชำระเงินและธุรกรรมข้ามพรมแดน หากสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับที่เหมาะสม ก็อาจกลายเป็น “เงินทดแทน” ที่อยู่นอกระบบ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับระบบการเงินโดยรวม

เพดานถือครองสเตเบิลคอยน์จึงถูกออกแบบให้ทำหน้าที่เหมือน “ตัวหน่วงความเร็ว” เพื่อป้องกันการขยายตัวอย่างไร้การควบคุมของเงินดิจิทัลภาคเอกชน ไม่ใช่เพื่อสกัดนวัตกรรม แต่เพื่อรักษาอธิปไตยทางการเงินของประเทศ

ผลกระทบต่อธุรกิจคริปโตในสหราชอาณาจักร

ข้อเสนอใหม่นี้สร้างกระแสตอบรับที่หลากหลายในวงการคริปโตของสหราชอาณาจักร ผู้นำในอุตสาหกรรมหลายรายกังวลว่าการจำกัดเพดานถือครองอาจบั่นทอนแรงจูงใจในการลงทุน และผลักดันให้สตาร์ทอัพย้ายฐานไปยังต่างประเทศ นักวิจารณ์บางส่วนมองว่ามาตรการนี้อาจทำให้สหราชอาณาจักรถูกมองว่าระมัดระวังเกินไป เมื่อเทียบกับตลาดอย่างสหรัฐฯ หรือสิงคโปร์ ซึ่งมีกรอบกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปิดกว้างกว่า

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสนับสนุนเห็นว่ามาตรการดังกล่าวช่วยเพิ่ม “ความน่าเชื่อถือ” ให้กับระบบกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของสหราชอาณาจักร โดยการกำหนดขอบเขตความเสี่ยงที่ชัดเจน ธนาคารกลางอังกฤษตั้งเป้าให้ตลาดมีความปลอดภัยมากขึ้นทั้งสำหรับนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน ความชัดเจนนี้อาจดึงดูดนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบกฎหมายที่คาดการณ์ได้

สำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินด้วยคริปโตหรือการชำระบัญชีผ่านบล็อกเชน ความท้าทายสำคัญจะอยู่ที่ “การปฏิบัติตามกฎ” และการบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับข้อจำกัดใหม่นี้ ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาการเติบโตของธุรกิจภายในกรอบการกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร

มุมมองในระยะยาว

การเสนอเพดานถือครองสเตเบิลคอยน์ของธนาคารกลางอังกฤษสะท้อนถึงความพยายามสร้างสมดุลระหว่าง “นวัตกรรม” และ “เสถียรภาพทางการเงิน” เพดาน 20,000 ปอนด์สำหรับบุคคลทั่วไป และ 10 ล้านปอนด์สำหรับภาคธุรกิจ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของสหราชอาณาจักรที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย “ความชัดเจน” มากกว่า “ความโกลาหล” ในยุคใหม่ของการเงินดิจิทัล.

Google News Icon

ติดตามเราบน Google News

รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด

ติดตาม