ข่าว

กระแสเงินไหลเข้า Crypto ETF พุ่งสูง BlackRock นำโด่งทั้ง Bitcoin และ Ethereum

โดย

Hanan Zuhry

Hanan Zuhry

กระแสเงินทุนไหลเข้าของ Crypto ETF เพิ่มขึ้น โดย Bitcoin 223 ล้านดอลลาร์ และ Ethereum 47.8 ล้านดอลลาร์ นำโดย BlackRock นักลงทุนนิยมผลิตภัณฑ์คริปโตที่เรียบง่ายและปลอดภัย

กระแสเงินไหลเข้า Crypto ETF พุ่งสูง BlackRock นำโด่งทั้ง Bitcoin และ Ethereum

สรุปด่วน

สรุปสร้างโดย AI ตรวจสอบโดยห้องข่าว

  • เมื่อวานนี้ Bitcoin ETF เพิ่มขึ้น 223 ล้านเหรียญสหรัฐ และ Ethereum ETF เพิ่มขึ้น 47.8 ล้านเหรียญสหรัฐ

  • BlackRock เป็นผู้นำในการเพิ่มขึ้นโดยมีส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุด

  • ETF แสดงให้เห็นว่านักลงทุนชอบการเปิดรับความเสี่ยงในสกุลเงินดิจิทัลที่ปลอดภัยและได้รับการควบคุม

  • ETF สามารถทำให้ตลาดมีความมั่นคงและทำให้สามารถเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลได้มากขึ้น

กองทุน ETF สินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ มีกระแสเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้ ตามรายงานของ Cointelegraph กองทุน ETF แบบสปอตของ Bitcoin มียอดไหลเข้าสุทธิ 223 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุน ETF ของ Ethereum เพิ่มขึ้นอีก 47.8 ล้านดอลลาร์

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่านักลงทุนยังคงให้ความสนใจและเปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไป หลายคนเลือกลงทุนผ่าน ETF เพราะปลอดภัยและสะดวกกว่าการซื้อและเก็บเหรียญโดยตรง อีกทั้งยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแล แตกต่างจากแพลตฟอร์มซื้อขายจำนวนมากที่ไม่ได้รับการควบคุม

BlackRock โดดเด่นที่สุด

ผู้ชนะที่ชัดเจนในวันนั้นคือ BlackRock ผู้จัดการกองทุนรายใหญ่ดึงเงินเข้ากองทุน Bitcoin ETF ได้ถึง 246 ล้านดอลลาร์ และอีก 144 ล้านดอลลาร์ในกองทุน Ethereum ETF ไม่มีบริษัทใดเข้าใกล้ตัวเลขนี้ได้

ความสำเร็จของ BlackRock สะท้อนสองประเด็น ประการแรก นักลงทุนยังคงไว้วางใจสถาบันการเงินรายใหญ่ในการดูแลเงินลงทุน และประการที่สอง บริษัทระดับบิ๊กอย่าง BlackRock กำลังกลายเป็นผู้เล่นสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของการลงทุนคริปโต

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา วอลล์สตรีทระมัดระวังต่อสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าบริษัทอย่าง BlackRock ไม่ได้เพียงเข้ามาในตลาด แต่กำลังกำหนดทิศทางด้วย

ความหมายต่อทิศทางตลาด

กระแสเงินไหลเข้าครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Bitcoin ยังพยายามฝ่าระดับราคาสำคัญไม่สำเร็จ การลงทุนผ่าน ETF ชุดใหม่อาจช่วยเสริมเสถียรภาพของตลาดได้ และยังแสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันที่มีต่ออนาคตของ Bitcoin แม้ในช่วงเวลาที่ผันผวน

สำหรับ Ethereum แม้กระแสเงินไหลเข้าจะน้อยกว่า แต่ก็ยังมีความสำคัญ ETH เป็นคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับสองและเป็นโครงสร้างพื้นฐานให้กับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์, NFT และการสเตกกิ้ง ความต้องการ ETF ของ Ethereum แสดงว่านักลงทุนมองเห็นภาพใหญ่ ลงทุนกับเทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงแค่ราคาตลาด

นักลงทุนสถาบัน vs. รายย่อย

ความแตกต่างหลักของ ETF คือใครเป็นผู้ซื้อ นักลงทุนรายย่อยมักมองหากำไรเร็ว ในขณะที่นักลงทุนสถาบันมักวางแผนระยะยาว ETF จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะ เพราะให้ช่องทางเข้าตลาดที่ง่ายและอยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน

นี่เป็นเหตุผลที่ความต้องการ ETF ยังคงสูง แม้ราคาคริปโตไม่ได้อยู่ในช่วงดีที่สุด สำหรับนักลงทุนสถาบัน เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่กำไรสั้น ๆ เท่านั้น แต่ ETF ถูกมองว่าเป็นสะพานเชื่อมสู่ตลาดที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเสี่ยงเกินไปหรือไร้กติกาที่ชัดเจน

การเปลี่ยนแปลงของวงการคริปโต

การเติบโตของ ETF แสดงให้เห็นว่าวงการคริปโตเปลี่ยนแปลงไปมาก ในช่วงแรกสินทรัพย์ดิจิทัลถูกออกแบบมาให้ห่างไกลจากธนาคารดั้งเดิม เน้นความเป็นอิสระและหลีกเลี่ยงระบบสถาบันการเงิน

แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้าม การเงินดั้งเดิมไม่เพียงยอมรับคริปโต แต่ยังเป็นผู้นำในการกำหนดวิธีที่ผู้คนเข้ามาลงทุน แม้บางคนจะไม่ชอบทิศทางนี้ แต่ก็ช่วยให้วงการมีความน่าเชื่อถือ เป็นระบบ และเข้าใจง่ายขึ้น

มองไปข้างหน้า

คำถามใหญ่ตอนนี้คือกระแสเงินไหลเข้าสู่ ETF คริปโตจะดำเนินต่อไปหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ก็อาจกลายเป็นฐานที่แข็งแกร่งให้กับตลาด ETF อาจช่วยลดความเสี่ยงและทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลมีเสถียรภาพมากขึ้นสำหรับนักลงทุนทั่วไป

แต่สำหรับตอนนี้ ผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจนแล้ว กองทุน Bitcoin ETF เพิ่มขึ้น 223 ล้านดอลลาร์ กองทุน Ethereum ETF เพิ่มอีก 47.8 ล้านดอลลาร์ และ BlackRock ถือครองสัดส่วนมากที่สุด ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนต้องการเข้าถึงคริปโต แต่เลือกเส้นทางที่เชื่อมั่นได้มากกว่าและมีกฎเกณฑ์รองรับ

ETF กำลังพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าพวกมันไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่กำลังกลายเป็นหนึ่งในช่องทางหลักที่นักลงทุนใช้เข้าสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัล และหากความนิยมนี้ยังดำเนินต่อไป ETF อาจมีบทบาทสำคัญต่ออนาคตของคริปโต

Google News Icon

ติดตามเราบน Google News

รับข้อมูลเชิงลึกและการอัปเดตคริปโตล่าสุด

ติดตาม