กระแสกองทุนดัชนีที่เชื่อมโยงกับ Trump หนุนความสนใจใน XRP ขณะ Ripple มองเส้นทางสู่สถานะธนาคารในสหรัฐ

กระแสพูดคุยเกี่ยวกับกองทุนดัชนีคริปโตที่อาจเชื่อมโยงกับ Truth Social ดึงให้ XRP กลับมาเป็นจุดสนใจของตลาดอีกครั้ง เอกสาร SEC Form S-1 ที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์สำหรับ “Crypto Blue Chip ETF” ที่ถูกยื่นเสนอ แสดงให้เห็นว่า XRP ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์หลัก บุคคลในโซเชียลมีเดียหลายรายรีบจับตาประเด็นนี้ทันที ขณะเดียวกัน XRP ก็มีสัดส่วนในผลิตภัณฑ์ดัชนีคริปโตที่เปิดให้ซื้อขายอยู่แล้ว ข้อมูลที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ระบุว่า XRP มีน้ำหนักราว 6.4% ในดัชนี Hashdex Nasdaq Crypto Index นอกจากนี้ กองทุนดัชนีที่ WisdomTree เสนออาจเพิ่มน้ำหนักของ XRP ให้สูงขึ้นไปอีก

การประเมินเบื้องต้นชี้ว่ากองทุนดังกล่าวอาจให้สัดส่วน XRP สูงถึง 19% นักวิเคราะห์ที่ติดตามพอร์ตของกองทุนคาดว่า ขณะนี้อาจมีมากกว่า 500 ล้านโทเคน XRP อยู่ในสินทรัพย์ภายใต้การถือครองของกองทุนดัชนี ซึ่งเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน อย่างไรก็ตาม ราคายังคงอ่อนตัว ช่องว่างระหว่างกระแสการยอมรับและการเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้นกำลังแบ่งความคิดเห็นในชุมชน

กองทุนดัชนีสร้างแรงซื้อแบบเงียบและสม่ำเสมอ

กระแสเงินทุนของสถาบันมักเคลื่อนไหวช้ากว่าความคึกคักของนักลงทุนรายย่อย แต่มีความสำคัญในระยะยาว กองทุนดัชนีไม่ซื้อขายตามอารมณ์ พวกเขาจัดสรรตามน้ำหนักและปรับสมดุลตามกฎ ซึ่งก่อให้เกิดแรงซื้อคงที่ไม่ใช่การพุ่งขึ้นแบบฉับพลัน ผู้สนับสนุนมองว่าการที่ XRP ถูกบรรจุในกองทุนหลายแห่งสร้างแรงรับซื้อที่มองไม่เห็นใต้ตลาด ทุกครั้งที่มีการเปิดตัวกองทุนใหม่ จะมีแรงซื้อเชิงโครงสร้างเพิ่มขึ้น และการปรับสมดุลแต่ละครั้งสามารถดึงอุปทานเข้าสู่การถือครองระยะยาวได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจารณ์ยังไม่คล้อยตาม ราคาของ XRP อ่อนลงแม้การถือครองของกองทุนจะเพิ่มขึ้น นักเทรดบางรายเริ่มตั้งคำถามว่า การเปิดรับผ่าน ETF ยังมีผลต่อตลาดเหมือนในอดีตหรือไม่ ขณะที่บางคนชี้ว่า การยอมรับจากกองทุนต้องใช้เวลาเป็นเดือน ไม่ใช่วัน ปัจจุบันมีข้อเท็จจริงหนึ่งที่ข้อมูลยืนยันชัดเจน: XRP ได้กลายเป็นองค์ประกอบถาวรของเศรษฐกิจดัชนีคริปโต ซึ่งเพียงเท่านี้ก็เปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนรายใหญ่ไปแล้ว

การผลักดัน Ripple สู่สถานะธนาคารสหรัฐเพิ่มความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์

นอกเหนือจากกระแส ETF แล้ว Ripple เองก็กำลังก้าวหน้าในเป้าหมายที่ใหญ่กว่ามาก บริษัทกำลังเดินหน้าขอใบอนุญาตเป็นธนาคารทรัสต์ระดับชาติในสหรัฐ เอกสารกำกับดูแลยืนยันว่า Ripple ได้ยื่นคำขอร่วมหน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคาร หากได้รับอนุมัติ Ripple จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง ซึ่งจะเปิดทางให้บริษัทให้บริการดูแลและชำระธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรงผ่านระบบธนาคารสหรัฐ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ จะสร้างเส้นทางที่ชัดเจนและอยู่ภายใต้กฎระเบียบสำหรับ Ripple ในการเข้าสู่ระบบการเงินดั้งเดิมอย่างเต็มตัว

ผู้สนับสนุนมองว่านี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความสามารถในการใช้งาน XRP ระยะยาว โครงสร้างธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตในสหรัฐอาจเปิดทางระบบชำระเงินใหม่ และเสริมความเชื่อมั่นของสถาบันในโครงสร้างพื้นฐานของ Ripple ขณะเดียวกัน หน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐได้ยืนยันแล้วว่าธนาคารสามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางคริปโตได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งช่วยลบอุปสรรคใหญ่ด้านกฎหมายออกไป เหลือแค่คำถามเรื่องจังหวะเวลา

ความลังเลของตลาดปะทะการวางตำแหน่งระยะยาว

ขณะนี้ XRP อยู่ในศูนย์กลางของภาพรวมที่ซับซ้อน ด้านหนึ่งคือการเปิดรับจากสถาบันที่มากขึ้นผ่านกองทุนดัชนี อีกด้านคือการผลักดันของ Ripple ไปสู่สถานะธนาคารที่ถูกกำกับในสหรัฐ แต่ตลาดยังคงระมัดระวัง ราคาอ่อนตัว และนักเทรดระยะสั้นขาดความอดทน ขณะที่ผู้ถือระยะยาวยังคงเชื่อมั่นอย่างเงียบ ๆ

ความตึงเครียดนี้เป็นตัวกำหนดเรื่องราวของ XRP ในตอนนี้ ด้านหนึ่งกองทุนดัชนีกำลังสะสมอย่างเงียบ ๆ และหน่วยงานกำกับค่อย ๆ เปิดทาง อีกด้านธนาคารกำลังเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน และนักเทรดโต้แย้งเรื่องกรอบเวลา ดังนั้น XRP จึงอยู่ในสองโลกพร้อมกัน: กราฟระยะสั้นดูหนัก แต่ภาพระยะยาวดูมีศักยภาพสูง แรงไหนจะกลายเป็นตัวกำหนดทิศทางรอบต่อไปของ XRP ยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตา